คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพด
เลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) เสนอ ดังนี้
1. การกำหนดมาตรการการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ไม่มีกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการเผา ตามมติคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568
2. การกำหนดมาตรการการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก (World Trade Organization (WTO)) ในโควตา และข้าวสาลีสำหรับการผลิตอาหารสัตว์ปี 2569 ตามมติ นบขพ. เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568
ซึ่งที่ผ่านมาการผลิตวัตถุดิบอาหารสัตว์ของประเทศไทย โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังคงมีปริมาณจำกัด และไม่สามารถรองรับความต้องการบริโภคของอุตสาหกรรมปศุสัตว์ได้ทั้งหมด เนื่องจากปัญหาด้านพื้นที่เพาะปลูกและการขาดแคลนแรงงาน ที่ทำให้ไทยมีความจำเป็นต้องนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์จากต่างประเทศเพิ่มเติมเป็นประจำทุกปี เพื่อบริหารจัดการอุปสงค์และอุปทานการผลิตอาหารสัตว์ในประเทศให้เกิดความสมดุล ทั้งห่วงโซ่ ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ข้ามพรมแดนโดยส่งเสริมการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศที่ไม่ใช้การเผาควบคู่กับการกำกับดูแลการเผา พื้นที่เพาะปลูกทางการเกษตรในประเทศ รวมถึงเป็นการปรับสมดุลการค้า และลดผลกระทบที่จะเกิดจากนโยบายการค้าของสหรัฐอเมริกา ดังนั้น คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) จึงขอให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการนำเข้าสินค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2569 ซึ่งประกอบด้วย
1. มาตรการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ไม่มีกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการเผา
2. การกำหนดมาตรการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก (World Trade Organization (WTO)) ในโควตาและข้าวสาลีสำหรับอาหารสัตว์ โดยต้องรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศปริมาณ 3 ส่วน ต่อการนำเข้า 1 ส่วน
3. การกำหนดปริมาณและอัตราภาษีการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายใต้กรอบ WTO โดยให้มีการกำหนดมาตรการดังกล่าวปีต่อปี ดังนี้
| หัวข้อ | เดิม (ปี 2568) (เป็นไปตามกรอบ WTO) | ในครั้งนี้ (ปี 2569) |
| ผู้นำเข้า | ให้องค์กรคลังสินค้า (อคส.) เป็นผู้นำเข้าเพียงผู้เดียว | ให้ อคส. และผู้นำเข้าทั่วไปนำเข้า |
| อัตราภาษี และปริมาณ | ในโควตา ร้อยละ 20 ปริมาณ 54,700 ตัน | ในโควตา ร้อยละ 0 ปริมาณ 1 ล้านตัน |
| นอกโควตา อัตราภาษีร้อยละ 73 และค่าธรรมเนียมพิเศษ ตันละ 180 บาท ไม่จำกัดปริมาณ | ||
ซึ่งเป็นการปรับเพดานโควต้าการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2569 จากเดิม 54,700 ตันต่อปี อัตราภาษี 20% เพิ่มเป็น 1 ล้านตันต่อปี อัตราภาษี 0% โดยเป็นผลจากการเจรจามาตรการกำแพงภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ (Reciprocal Tariff) โดยรัฐบาลชุดที่ผ่านมา
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้รายงานในที่ประชุม ครม. ว่า แม้การนำเข้าโควต้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากสหรัฐอเมริกา อาจส่งผลกระทบต่อราคา และภาพรวมผลผลิตข้าวโพดในประเทศ แต่ในข้อเท็จจริง ปริมาณความจำเป็นต้องใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศไทย มีมากกว่าปริมาณการผลิตในประเทศ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีมาตรการบริหารจัดการอย่างเหมาะสม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็มีความกังวลว่านโยบายเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อพืชผล โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ภาคเกษตรกรปลูกได้
ดังนั้นที่ประชุม ครม. จึงมีมติเห็นชอบ ให้ปรับแผนเปิดโควต้านำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากสหรัฐอเมริกา จากเดิมตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. – 31 ส.ค. ของทุกปี เป็นตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. – 30 มิ.ย. ซึ่งเป็นช่วงก่อนผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศจะออกสู่ตลาดระหว่างเดือน ก.ย. – ธ.ค. ของทุกปี อีกทั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวยอมรับในที่ประชุม ครม. ว่าแม้เรื่องนี้จะเป็นผลกระทบจากการเจรจากำแพงภาษีตอบโต้กับสหรัฐอเมริกา แต่ยืนยันว่ารัฐบาล ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล จะบริหารจัดการให้กระทบต่อเกษตรกรในประเทศให้น้อยที่สุด








