ห่วง“ข้าววัชพืช”ระบาดหนักภาคอีสาน ภาคกลาง แนะ 10 วิธี ป้องกันกำจัด ลดการระบาด

ข้าววัชพืชคือ ข้าวที่เกิดจากการผสมพันธุ์ข้ามระหว่างข้าวป่าที่พบทั่วไปในธรรมชาติกับข้าวปลูก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลักษณะที่ชาวนาไม่ต้องการคือ ปลายเมล็ดมีหางยาว ออกดอกเร็วกว่าข้าวปลูก เมล็ดสุกแก่ก่อนและร่วงเกือบหมดก่อนเวลาเก็บเกี่ยว โดยจะสังเกตได้จากสีของข้าวเปลือกและสีของเยื่อหุ้มเมล็ด ที่จะมีสีแดงน้ำตาล สีแดงและอาจมีสีขาวได้ ข้าววัชพืช สามารถจำแนกตามลักษณะภายนอกของข้าววัชพืชได้เป็น 3 ลักษณะคือ ข้าวหางหรือข้าวนก ข้าวแดงหรือข้าวลายและข้าวดีดหรือข้าวเด้ง

ในช่วงระยะเวลา 2 – 3 ปี ที่ผ่านมา ข้าววัชพืชได้มีการระบาดมาอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มการระบาดขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น โดยในปัจจุบัน ข้าววัชพืชได้ระบาดรุนแรงเป็นจำนวนมากในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางของประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ปลูกข้าวของพี่น้องชาวนาเป็นอย่างมาก กรมการข้าวหน่วยงานที่มีภารกิจหลักเกี่ยวกับข้าวและชาวนา จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบและ ประชาสัมพันธ์องค์ความรู้ให้แก่ชาวนาถึงวิธีป้องกันและกำจัดข้าววัชพืช

โดยพี่น้องชาวนาสามารถดำเนินการตามคำแนะนำของกรมการข้าว ได้เลื่อนเวลาปลูกไปเป็นช่วง กลางเดือน ก.ค. – ส.ค. ที่ช่วยลดจำนวนข้าววัชพืชได้มาก เลือกใช้เมล็ดพันธุ์จากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือมีคุณภาพเทียบเท่าเมล็ดพันธุ์ข้าวจากกรมการข้าว ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเมล็ดพันธุ์มีมาตรฐาน ไม่มีพันธุ์ปน ความงอกสูง แข็งแรงสามารถแข่งขันกับวัชพืชได้ ล่อให้งอกแล้วไถกลบ โดยการเตรียมดิน – ปล่อยให้งอก แล้วไถกลบ 1–3 ครั้ง จะสามารถลดข้าววัชพืชได้มากกว่า 50% นอกจากนี้ให้ปลูกปอเทืองร่วมด้วย จะช่วยปรับดินและกำจัดวัชพืชไปพร้อมกัน เตรียมดินให้ดี โดยการไถ พรวน ตีดิน 1 รอบ แล้วคราดทำเทือกให้เรียบ เพื่อเตรียมพร้อมก่อนปลูก ใช้อัตราเมล็ดพันธุ์ที่เหมาะสม โดยการ ปักดำ ให้ใช้ปริมาณเมล็ดพันธุ์ 7 – 10 กก./ไร่ ส่วนนาหว่าน ให้ใช้ปริมาณเมล็ดพันธุ์ 18 – 24 กก./ไร่ ซึ่งการใช้อัตราที่เหมาะสมจะช่วยให้ข้าวโตเร็ว แข่งกับวัชพืชได้ เปลี่ยนวิธีปลูกจาก “นาหว่าน” ให้เปลี่ยนเป็น “ปักดำ” หรือ “โยนกล้า” แทน

ใช้สารกำจัดวัชพืชให้ถูกวิธี โดยนาหว่านแห้ง ไม่ควรใช้สารเคมี ควรใช้วิธีล่อให้งอกแล้วไถกลบแทน ส่วนนาหว่านน้ำตม : ให้ใช้สาร ออกซาไดอะซอน หลังหว่าน 3 วัน อัตรา 500 มล./ไร่ และโพรพานิล หลังหว่าน 8 –10 วัน และนาปักดำ : ใช้ ไดเมธทีนามิด หลังปักดำ 3 วัน ในอัตรา 100 มล./ไร่ และ โพรพานิล หลัง 10 วัน 8. ลูบรวงข้าววัชพืชด้วยสารเคมีเฉพาะจุด โดยใช้ กลูโฟซิเนต – แอมโมเนียม อัตรา 100 – 200 มล./น้ำ 1 ลิตรลูบช่วงข้าววัชพืชเริ่มออกรวง และตากเกสรไม่เกิน 3 วัน ถอนหรือตัดข้าววัชพืชเป็นระยะ โดยถอนหรือใช้เครื่องตัดหญ้า 3 ครั้ง ในระยะต้นกล้า แตกกอ และตั้งท้องที่จะช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวได้มากกว่า 80% จัดการน้ำในนาอย่างเหมาะสม โดยหากขังน้ำในนาไว้ประมาณ 1 เดือน จะช่วยลดเมล็ดข้าววัชพืชในดินได้ราว 30%

สำหรับขั้นตอนกระบวนการทั้ง 10 ข้อนี้ จะสามารถป้องกันและกำจัดข้าววัชพืชได้ โดยกรมการข้าวจะนำเสนอและประชาสัมพันธ์ข้อมูลเหล่านี้ให้พี่น้องชาวนาได้รับทราบต่อไป โดยเกษตรกรท่านใดมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน่วยงานกรมการข้าวใกล้บ้าน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง