นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม – ชุมพร ว่า ปัจจุบันได้เปิดใช้งานทางคู่ตลอดเส้นทางแล้ว ถือเป็นเส้นทางสำคัญเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวหลักอย่างชะอำและหัวหิน คาดว่าจะเปิดใช้งานได้เต็มระบบในปี 2569 ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางลงสู่ภาคใต้ส่วนระยะถัดไป จะขยายเส้นทางลงสู่ภาคใต้ตอนล่าง ในช่วงสุราษฏร์ธานี-พังงา-ท่านุ่น เพื่อเชื่อมโยงฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน (เกาะสมุย-ภูเก็ต) พร้อมทั้งพัฒนาสถานีชุมทางหาดใหญ่และ
ปาดังเบซาร์ให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้า (Container Yard) เพื่อเชื่อมต่อชายแดนและกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค นอกจากนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ยังมุ่งพัฒนาขบวนรถท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางราง กระตุ้นให้เกิดการเดินทางไปยังชุมชนต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาค ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง ช่วยเป็นกระจายรายได้และขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก
สำหรับภาพรวมรถไฟนำเที่ยว ประจำปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 – กันยายน 2568) มีนักท่องเที่ยวใช้บริการทั้งสิ้น 186,488 คน สร้างรายได้รวม 72.13 ล้านบาท โดยรายได้หลัก 66.55 ล้านบาท มาจากการจัดเดินขบวนรถนำเที่ยว ซึ่งขบวนที่ทำรายได้สูงสุดคือ ขบวน Royal Blossom (28.46 ล้านบาท) และขบวน KIHA 183 (21.58 ล้านบาท) สำหรับแผนงานพัฒนาการท่องเที่ยวทางรถไฟในปีงบประมาณ 2569 รฟท. จะมุ่งขยายฐานการตลาด โดยเปิดโอกาสให้ภาครัฐและเอกชนสามารถเช่ารถเหมาขบวนเพื่อจัดทริปท่องเที่ยวได้เองตลอดทั้งปี
