ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำคณะกรมประมงเจรจาผลักดันม้าน้ำตากแห้งของไทยกลับเข้าสู่บัญชีรายชื่อวัตถุดิบยาจากสัตว์ที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีน หลังไทยประสบความสำเร็จในการเพิ่มศักยภาพการเพาะเลี้ยงม้าน้ำเชิงพาณิชย์ สามารถรองรับความต้องการของตลาดและสร้างโอกาสเติบโตทางเศรษฐกิจแก่เกษตรกรไทย
นางฐิติพร หลาวประเสริฐ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยภายหลังการประชุมทวิภาคีด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (SPS) ไทย–จีน ว่า การประชุมร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานศุลกากรจีน (GACC) มุ่งแลกเปลี่ยนข้อมูลทางเทคนิคและกำหนดแนวทางความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและประมงอย่างยั่งยืนระหว่างสองประเทศ
กรมประมงได้เสนอประเด็นสำคัญเรื่องการบรรจุม้าน้ำตากแห้งของไทยกลับเข้าสู่บัญชีอนุญาตนำเข้า หลังมีการระงับส่งออกมาตั้งแต่ปี 2559 เนื่องจากความเสี่ยงต่อการใกล้สูญพันธุ์ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันไทยมีศักยภาพเพาะเลี้ยงม้าน้ำเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น โดยมีเกษตรกรกว่า 20 รายเข้าร่วม และขยายผลอาชีพแล้ว 5 ราย ช่วยลดการจับจากธรรมชาติ
ปัจจุบันมีฟาร์มเพาะเลี้ยงม้าน้ำที่ได้รับการรับรองตามระเบียบกรมประมงภายใต้อนุสัญญา CITES พ.ศ. 2568 จำนวน 1 แห่ง และอยู่ระหว่างยื่นขอรับรองเพิ่มเติมอีก 2 แห่ง สะท้อนความพร้อมของไทยในการกลับเข้าสู่ตลาดจีนด้วยสินค้าประมงมูลค่าสูงอย่างยั่งยืน
ม้าน้ำจัดเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่มีความต้องการในตลาดเพิ่มขึ้นจากสรรพคุณทางยา และอยู่ในบัญชี Appendix II ของ CITES ซึ่งอนุญาตให้ค้าขายได้ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการสูญพันธุ์ กรมประมงได้จัดทำรายงาน NDFs เพื่อประเมินสถานะประชากรม้าน้ำในธรรมชาติของไทยและเตรียมข้อมูลส่งให้ CITES พิจารณา
หาก GACC เห็นชอบให้ไทยกลับมาส่งออกม้าน้ำตากแห้งได้อีกครั้ง จะเป็นโอกาสสำคัญในการฟื้นตลาดสินค้าประมงมูลค่าสูง และสร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน ตามนโยบายของ ร้อยเอก ธรรมนัส ในการสร้างตลาด สร้างรายได้ และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของเกษตรกรไทย โดยกรมประมงพร้อมเดินหน้าสนับสนุนความร่วมมือด้านประมงไทย–จีนต่อไป
