นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวในระหว่างการเปิดงานโครงการ “KICK OFF สานพลังความร่วมมือเพื่อป้องกันการค้ามนุษย์และยกระดับสิทธิแรงงาน สู่การเติบโตเศรษฐกิจไทยที่ยั่งยืน” ณ โรงแรมเดอะเวโล โฮเต็ล แอนด์ บีเอ็มเอ็กซ์ ปั๊มพ์ แทร็ค จังหวัดสระแก้ว โดยมีรองปลัดกระทรวงแรงงานรักษาราชการแทนอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บริหารกระทรวงแรงงานและองค์การระหว่างประเทศ อาทิ สหภาพยุโรป (EU) โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย ผู้แทนรัฐบาลสวีเดน ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) เข้าร่วมงานทั้งในระบบออนไลน์และออฟไลน์
นางสาวตรีนุช กล่าวว่า ปัญหาการค้ามนุษย์ยังคงเป็นความท้าทายสำคัญของสังคมไทยและประชาคมโลก กระบวนการค้ามนุษย์ในปัจจุบันมีรูปแบบที่หลากหลาย ซับซ้อนและเชื่อมโยงกับระบบอาชญากรรมข้ามชาติ ไม่ว่าจะเป็นการบังคับใช้แรงงาน การแสวงหาประโยชน์จากแรงงานข้ามชาติ การหลอกลวงไปทำงานในสภาพที่ไม่เป็นธรรม หรือรูปแบบ ใหม่ๆ บนโลกออนไลน์ ล้วนส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิมนุษยชนและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านแรงงาน กระทรวงแรงงานตระหนักดีว่าการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ด้านแรงงานเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องดำเนินงานอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เรามีจุดยืนที่ชัดเจนว่า แรงงานทุกคน ไม่ว่าจะมีสัญชาติใดหรือทำงานในภาคส่วนใด ต้องได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายและต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของการแสวงหาประโยชน์
นางสาวตรีนุช กล่าวด้วยว่า กระทรวงแรงงานได้ดำเนินมาตรการสำคัญเพื่อป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์อย่างเต็มรูปแบบ โดยดำเนินการใน 5 มาตรการ สำคัญคือ
1. ยกระดับการคุ้มครองแรงงานและการบังคับใช้กฎหมาย โดยเพิ่มความเข้มแข็งของการตรวจแรงงาน การตรวจสถานประกอบการที่มีความเสี่ยง การนำเทคโนโลยีมาช่วยติดตามแรงงานและการลงโทษผู้กระทำผิดต่ออย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้มีช่องว่างสำหรับการแสวงหาประโยชน์ในรูปแบบใดๆ
2. คุ้มครองแรงงานข้ามชาติและกลุ่มเปราะบาง โดยการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวตามระบบ MOU การจัดทำทะเบียนแรงงานที่ถูกต้อง การให้บริการด้านสิทธิแรงงาน รวมทั้งการสนับสนุนศูนย์รับแจ้งเหตุและช่องทางร้องเรียนหลายภาษา เพื่อให้แรงงานเข้าถึงความช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย
3. บูรณาการทำงานกับทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานความมั่นคง ตำรวจ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ องค์กรระหว่างประเทศ และภาคเอกชน เพื่อให้การป้องกันการค้ามนุษย์เป็นความร่วมมือแบบไร้รอยต่อ ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง จนถึงการช่วยเหลือเยียวยา
4. ยกระดับมาตรฐานแรงงานสากล กระทรวงแรงงานขับเคลื่อนตามหลัก ILO และมาตรฐานแรงงานนานาชาติ เพื่อให้การทำงานในประเทศไทยเป็นไปอย่างปลอดภัย โปร่งใสและเป็นธรรม รวมถึงสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับภาคการผลิตและห่วงโซ่อุปทานของไทยในเวทีโลก
5. ส่งเสริมความรู้และความตระหนักรู้ต่อสาธารณะ ด้วยการรณรงค์ ปลูกฝังความรับผิดชอบทางสังคมภาคธุรกิจ และให้ความรู้แก่แรงงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดโอกาสการตกเป็นเหยื่อและสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการค้ามนุษย์
นางสาวตรีนุช กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ไม่ใช่เพียงการบังคับใช้กฎหมาย แต่คือการปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ทำงานทุกคน ซึ่งเป็นเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของกระทรวงแรงงาน ในการป้องกัน ปราบปราม และพัฒนาระบบแรงงานของประเทศให้ปลอดภัย เป็นธรรม สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมแรงงานที่เคารพสิทธิและคุณค่าของความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง การดำเนินการของทุกภาคส่วนในวันนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเครือข่ายแรงงาน ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ที่ช่วยขับเคลื่อนให้ผู้ใช้แรงงานในจังหวัดสระแก้ว ได้รับความคุ้มครองต่อการถูกละเมิดสิทธิและปัญหาการเอารัดเอาเปรียบแรงงาน ป้องกันการแสวงหาประโยชน์จากการค้ามนุษย์ ตลอดจนสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลให้แรงงานในจังหวัดสระแก้ว “มีความมั่นคงในการทำงาน และมีคุณภาพชีวิตที่ดี” และจะมีการขยายผลไปในจังหวัดอื่นๆ ต่อไป








