นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้ นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนจากจังหวัดส่วนภูมิภาคเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีหน่วยงานทุกภาคส่วน อาทิ กรมการปกครอง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงภาคเอกชน สมาคม มูลนิธิ ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้ง 76 จังหวัด
นายจุมพฏ กล่าวว่า ตามที่สำนักพระราชวัง ได้ประกาศให้ประชาชนได้เข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ภายหลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ครบ 15 วัน กระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้กรมการปกครองจัดทำแผนดำเนินงานอำนวยความสะดวกประชาชนในการเดินทางมาเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยให้จังหวัด อำเภอ ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกาศเชิญชวน และจัดทำข้อมูลบัญชีรายชื่อประชาชนที่มีความประสงค์จะเดินทางมาเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นประชาชนทั่วไปเป็นลำดับแรก รวมถึงข้าราชการ ผู้บริหาร พนักงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดละ 3,000 คน รวมทั้งสิ้น 228,000 คน กำหนดให้เดินทางวันละ 4 จังหวัด จังหวัดละ 750 คนต่อครั้ง รวม 3,000 คนต่อวัน เรียงลำดับตามหมวดอักษรจังหวัด เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 – 1 กุมภาพันธ์ 2569 ซึ่ง 4 จังหวัดแรก ที่จะเดินทางในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 ได้แก่ จังหวัดกระบี่ กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ และกำแพงเพชร และวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น จันทบุรี ฉะเชิงเทราและนครพนม โดยสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานกลางด้านการประมวลข้อมูลเกี่ยวกับงานพิธีและการรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เพื่อเป็นหน่วยงานประสานและเป็นหน่วยปรึกษาให้กับจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด
อีกทั้ง ที่ประชุมได้หารือและวางแนวทางในการอำนวยความสะดวกและบริการอื่นๆ โดยให้จังหวัดมอบหมายเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานของจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดเจ้าหน้าที่ประจำรถทุกคัน พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่พยาบาล ตำรวจ หรือทหาร และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน อำนวยความสะดวกในระหว่างการเดินทาง ซึ่งบุคคลที่เดินทางกับคณะ ต้องเป็นบุคคลผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เป็นผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ใกล้คลอด ไม่มีโรคประจำตัวที่แพทย์ต้องเฝ้าระวัง หรือมีพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยมีที่ทำการปกครองจังหวัดและสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด เป็นหน่วยประสานงานกลาง
เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประสานการดูแลและอำนวยความสะดวกประชาชนตั้งแต่เริ่มต้นเดินทางออกจากจังหวัดจนกระทั่งประชาชนกลับถึงบ้าน ตั้งแต่เรื่องความพร้อมของยานพาหนะให้เป็นไปตามกฎหมาย ความพร้อมของผู้ขับขี่ รวมถึงด้านการจัดบริการอาหาร น้ำดื่ม ห้องสุขา ประจำจุดพักระหว่างทาง และจุดพักคอย พร้อมทั้งให้ทุกจังหวัดจัดทำแผนการเดินทาง และประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ระหว่างเส้นทาง เพื่อร่วมกำหนดแผนดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก และกำชับต้องมีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ รวมถึงมีการสอบถามเกี่ยวกับการรับประทานยาที่อาจส่งผลให้เกิดการง่วงนอน เพื่อให้การเดินทางเป็นไปด้วยความปลอดภัย และขอให้ทุกจังหวัด อำเภอ รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ร่วมกันดำเนินการให้เป็นไปตามแนวทางที่กระทรวงมหาดไทยกำหนดภายใต้แนวทางของคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ท่านทรงห่วงใยประชาชนผู้มีความปรารถนาในการเดินทางมาเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยถือว่า ประชาชนทุกคนคือแขกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงขอให้ทุกคนทุกฝ่ายได้มุ่งมั่นทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถเพื่อถวายพระเกียรติยศสูงสุด
สำหรับประชาชนที่ประสงค์จะเข้าร่วมการเดินทางเพื่อเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สามารถติดต่อได้ที่ ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอ ที่ทำการปกครองจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด หรือโทรศัพท์สอบถามข้อมูลทาง สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 เพื่อร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง “พระแม่แห่งแผ่นดิน”
(15 พ.ย. 68) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมและตรวจพื้นที่บริการประชาชน ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและจัดการจราจร งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นายพิพัฒน์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีประชาชนเดินทางมาเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เฉลี่ยวันละ 3,000 – 4,000 คน โดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมการคือ การรองรับประชาชนที่จะเดินทางเป็นหมู่คณะจากต่างจังหวัด ซึ่งจะเริ่มทยอยเดินทางเข้าพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป ศูนย์บัญชาการฯ ได้จัดทำแผนรองรับการเดินทางที่ได้มีการประสานงานผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด และกระทรวงมหาดไทย โดยจะมีการจัดระเบียบการเข้าพื้นที่ตามหมวดตัวอักษรของจังหวัด เพื่อความเป็นระบบและระเบียบเรียบร้อย
ด้านการบริหารจัดการจราจรและระบบขนส่งมวลชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่ง ขสมก. ร่วมกับจิตอาสา จัดบริการรถโดยสารสาธารณะอำนวยความสะดวก โดยขณะนี้ยังไม่มีปัญหาติดขัด
นอกจากนี้ยังมีจุดหน่วยแพทย์–พยาบาล มีจุดปฐมพยาบาลในทุกโซน รถพยาบาลประจำพื้นที่ และกรณีฉุกเฉินสามารถส่งต่อโรงพยาบาลได้ทันที ดูแลจนปลอดภัยและกลับบ้านหรือแอดมิตได้ตามอาการ และสิ่งสำคัญที่สุดคือ มาตรการความปลอดภัย ซึ่งมีตำรวจ ทหาร EOD ตรวจความปลอดภัยโดยรอบงาน กล้อง CCTV ครอบคลุมพื้นที่ มีจุดประชาสัมพันธ์ช่วยนำทางผู้สูงอายุ เด็ก คนพิการ จุดรับแจ้งของหาย และมีหน่วยสายตรวจเวรผลัดตลอดทั้งวัน เพื่อให้การเดินทางของประชาชนเป็นไปอย่างเรียบร้อยและปลอดภัย หากพบปัญหาใด ๆ สามารถแจ้งหน่วยงานในพื้นที่ได้ทันที
ด้าน พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึง แผนรองรับคณะรถบัสจากต่างจังหวัด ว่า ได้เตรียมจุดจอดรถไว้ 4 มุมเมือง และเมื่อประชาชนรวมตัวครบตามจำนวน จะมีเจ้าหน้าที่นำเข้ามาในพื้นที่ตามการจัดสรรเวลา เพื่อให้การรับ-ส่ง และการจราจรโดยรอบมีความคล่องตัว
ขณะที่กรุงเทพมหานคร เปิดให้ประชาชนที่ประสงค์จะเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จ
พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สามารถจองคิวออนไลน์ (ผ่านลิงก์ https://sites.google.com/view/letbmaknow) เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ในการวางแผนการเดินทาง
ส่วนการเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยของประชาชน พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บริเวณจุดคัดกรอง และเส้นทางเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตั้งแต่บริเวณจุดคัดกรองประตูมณีนพรัตน์ ผ่านถึง อุโมงค์หน้าพระลาน ซึ่งเป็นจุดพักคอย รวมถึงสำรวจความเรียบร้อยบริเว ท้องสนามหลวง การให้บริการรถ Shuttle Bus รับ–ส่งฟรี เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน อย่างต่อเนื่อง โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีความห่วงใยต่อประชาชนเป็นอย่างยิ่ง โดยตระหนักดีว่าหลายคนเดินทางมาจากต่างจังหวัด บางส่วนต้องเข้าคิวเป็นเวลานาน ท่ามกลางสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายจึงได้รับการกำชับให้คอยดูแล ช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกประชาชนอย่างเต็มกำลัง ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชน หากพบเหตุการณ์ไม่ปลอดภัยหรือสิ่งผิดปกติ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ หรือโทรสายด่วน 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อร่วมกันดูแลความปลอดภัยของประชาชนทุกคน








