นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์เข้าหารือกับภาคเอกชนไทยรายใหญ่ที่ประกอบธุรกิจในสหรัฐอเมริกา เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ข้อจำกัด และความท้าทายด้านการค้า รวมถึงผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ โดยภาคเอกชนเสนอให้รัฐเพิ่มบทบาทในการเจรจาลดภาษีบางหมวดสินค้า เสริมการทำตลาด สนับสนุนข้อมูลเชิงลึก และช่วยประสานกับคู่ค้าสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน
ส่วนความคืบหน้าในการเจรจาภาษี Reciprocal Tariffs ไทย–สหรัฐฯ รัฐบาลยืนยันว่าการหารือยังเดินหน้าต่อเนื่อง มีความคืบหน้าตามลำดับ และยังคงตั้งเป้าสรุปผลภายใต้กรอบเวลาเดิม โดยรัฐบาลให้ความสำคัญทั้งด้านอธิปไตย ความมั่นคงของชาติ และการส่งเสริมผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของไทยควบคู่กัน พร้อมนำนโยบายที่ได้จากข้อเสนอเอกชนไปใช้เสริมความแข็งแรงของภาคธุรกิจไทยในตลาดสหรัฐฯ
รัฐมนตรีฯ ยังเน้นย้ำการป้องกันปัญหาการสวมสิทธิถิ่นกำเนิดสินค้า การใช้ Local Content มากขึ้น และการส่งเสริมความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ ยังได้หารือแนวทางส่งเสริมสินค้า SMEs ไทย รวมถึงสินค้าเกษตรที่ตลาดสหรัฐฯ ต้องการ เช่น ไข่ไก่ ไข่เป็ด และแนวคิดเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร
ภาคเอกชนยังเสนอให้รัฐสนับสนุนต่างชาติที่มีศักยภาพเข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทยมากขึ้น ผ่านมาตรการบูรณาการภาครัฐ–เอกชน เช่น Long Stay Visa เพื่อดึงกำลังซื้อในการซื้อบ้านและคอนโด ซึ่งจะเป็นอีกแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเพิ่มรายได้ให้เศรษฐกิจไทยในระยะยาว
