เตือนพื้นที่ภาคใต้ รับมือฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน ส่วนสถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ระบายน้ำค้างทุ่ง

นางรอยบุญ รัศมีเทศน์ ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) เปิดเผยว่า จากประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องสภาพอากาศแปรปรวนในพื้นที่ตอนบนของประเทศและภาคใต้ มีฝนตกคลื่นลมแรง สอดคล้องกับข้อมูลของ สสน. ที่พบความเสี่ยงเกิดฝนตกหนักในหลายจังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน 

สำหรับพื้นที่ตอนบนของประเทศ ขณะนี้มีมวลอากาศเย็นแผ่ลงมา ส่งสัญญาณเข้าสู่ฤดูหนาวชัดเจนที่ผ่านมา ปริมาณฝนที่ตกในช่วงวันที่ 11–16 พฤศจิกายน ส่งผลให้ระดับน้ำในเขื่อนใหญ่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย สามารถปรับลดการระบายน้ำได้ ส่วนพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างยังมีระดับน้ำสูงและหลายจุดล้นตลิ่ง โดยเฉพาะแม่น้ำยม เจ้าพระยา และท่าจีน รวมถึงทุ่งรับน้ำ 7 แห่งจากทั้งหมด 10 แห่ง มีระดับน้ำเกือบเต็มความจุ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังเร่งแก้ไขปัญหาน้ำค้างทุ่งต่อเนื่อง และช่วงวันที่ 19–29 พฤศจิกายนนี้ จะมีน้ำทะเลหนุนสูงในแม่น้ำเจ้าพระยา กองทัพเรือ ร่วมกับชลประทาน ติดตั้งเรือผลักดันน้ำ 58 ลำ ในพื้นที่ 9 จุดสำคัญ ช่วยบรรเทาผลกระทบ ย้ำว่า การระบายออกสู่ทะเลยังต้องใช้เวลาอาจยาวไปถึงช่วงต้นปี ขอให้หน่วยงาน แจ้งเตือนประชาชนริมแม่น้ำ  และผ่านระบบ Cell Broadcast ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ย้ำว่า ระบบสื่อสารมีความพร้อม ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ภัยต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันในการเฝ้าระวัง และเข้าถึงข้อมูลด้วยตนเอง 

สสน. ยังทำงานร่วมกับมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภา) ยามยาก สภากาชาดไทย พัฒนาเครือข่ายเตือนภัยพิบัติชุมชนกว่า 300 หมู่บ้าน ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็ว และยังได้บริหารจัดการน้ำร่วมกับภาครัฐเป็นอย่างดี  ทั้งนี้ สสน. ยังขับเคลื่อนเครือข่ายชุมชนให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เข้ากับสภาพอากาศ ด้วยการใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี พร้อมน้อมนำแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ จนเห็นถึงความสำเร็จในการพื้นฟูและพัฒนาทำให้หลายพื้นที่บรรเทาอุทกภัย ภัยแล้ง จัดสรรที่ดินและแผนแจ้งเตือนภัย เพื่อให้ทุกพื้นที่พร้อมทั้งในภาวะปกติ ระหว่างเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง