นายชนะ เดชฐิติ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครหลวง นายเอกชัย สำเนียงใหม่ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักใต้ และนางสาวสุลักขณา ขำคง หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาคลองเพรียว-เสาไห้ เข้าร่วมกิจกรรมสื่อสัญจร ที่ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักใต้(เขื่อนพระราม 6) ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อรับฟังบรรยายสรุปโครงการศึกษาความเหมาะสมปรับปรุงโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครหลวง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักใต้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาคลองเพรียว-เสาไห้ จังหวัดสระบุรี
นายชนะ เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคกลาง โดยในพื้นที่จังหวัดสระบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถือเป็นพื้นที่สำคัญที่จะต้องมีการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการชลประทานและการบริหารจัดการน้ำให้ดียิ่งขึ้น จึงได้ทำการศึกษาความเหมาะสมปรับปรุงโครงการส่งน้ำและบำรุงทั้ง 3 แห่งดังกล่าว ที่ครอบคลุมพื้นที่ชลประทานรวมกว่า 526,000 ไร่ มีการกำหนดแนวทางในปรับปรุงโครงการฯและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุน รวมทั้งการใช้น้ำที่เปลี่ยนแปลงไป
เนื่องจากโครงการฯดังกล่าวมีอายุการใช้งานมายาวนานกว่า 50 ปี ทำให้ระบบชลประทานบางส่วนชำรุดเสียหาย ส่งผลให้ประสิทธิภาพการชลประทานลดลง ตลอดจนการใช้น้ำที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพสังคมและเศรษฐกิจ รวมถึงปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยในพื้นที่ที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น
ส่วนแนวทางการปรับปรุง ซ่อมแซมระบบชลประทาน พร้อมแผนบรรเทาปัญหาอุทกภัย ได้แก่ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครหลวง : โครงการปรับปรุงคลองส่งน้ำสายใหญ่นครหลวง โครงการปรับปรุงซ่อมแซมระบบส่งน้ำ โครงการปรับปรุงสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าคลองไท (คลอง 1|ขวา-นครหลวง) และ โครงการปรับปรุงซ่อมแซมระบบระบายน้ำ หากโครงการฯแล้วเสร็จ จะช่วยเพิ่มพื้นที่การเกษตรได้ประมาณ 71,195 ไร่ ลดพื้นที่น้ำท่วมได้ 99,204 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ประมาณ 8,946 ครัวเรือน
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักใต้ : โครงการก่อสร้างทำนบสูบน้ำชั่วคราวปากคลองส่งน้ำ (9 แห่ง) โครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า (3 แห่ง) โครงการปรับปรุงซ่อมแซมระบบส่งน้ำ โครงการปรับปรุงสถานีสูบน้ำปากคลอง (1ขวา – 1) และโครงการปรับปรุงซ่อมแซมระบบระบายน้ำ
หากโครงการฯแล้วเสร็จ จะช่วยเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกได้ประมาณ 57,634 ไร่ ลดพื้นที่น้ำท่วมได้ 34,600 ไร่ มีประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 13,519 ครัวเรือน
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาคลองเพรียว-เสาไห้ : โครงการปรับปรุงซ่อมแซมสถานีสูบน้ำเสาไห้และสถานีสูบน้ำคลองเพรียว โครงการปรับปรุงซ่อมแซมระบบส่งน้ำ และโครงการปรับปรุงซ่อมแซมระบบระบายน้ำ หากโครงการฯแล้วเสร็จ จะช่วยเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกได้ประมาณ 70,687 ไร่ ลดพื้นที่น้ำท่วมได้ 3,065 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์จากการปรับปรุงโครงการประมาณ 7,825 ครัวเรือน
นอกจากนี้ ทั้ง 3 โครงการ ยังมีการก่อสร้างกำแพงป้องกันน้ำท่วมพร้อมปรับปรุงคันคลองระบายน้ำ ตลอดจนก่อสร้างแท่นสูบน้ำและสถานีสูบน้ำปลายคลองเพิ่มเติมหลายแห่ง เพื่อช่วยแก้ปัญหาการระบายน้ำและบรรเทาอุทกภัยให้กับประชาชน ทั้งนี้ เมื่อการปรับปรุงโครงการฯแล้วเสร็จตามที่ได้กำหนดไว้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำและการชลประทาน บรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค สร้างความสมดุล และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน








