พัทลุงเผชิญอุทกภัยรุนแรงจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ฝนถล่มหนักต่อเนื่องทำให้น้ำท่วมขยายวงกว้าง 8 อำเภอ กระทบครัวเรือนกว่า 10,000 หลัง หน่วยงานเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ–เปิดเส้นทางสัญจรปลอดภัย

จากร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ร่วมกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรง ส่งผลให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมากต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 19–23 พฤศจิกายน 2568 ทำให้จังหวัดพัทลุงประสบอุทกภัยเป็นวงกว้าง ประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว 10,337 ครัวเรือน รวม 25,808 คน ครอบคลุม 8 อำเภอ 36 ตำบล 171 หมู่บ้าน 8 ชุมชน ได้แก่ อำเภอเมือง ควนขนุน กงหรา เขาชัยสน ศรีนครินทร์ บางแก้ว ป่าบอน และปากพะยูน

จังหวัดพัทลุงประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อำเภอกงหรา เป็นแห่งแรก เนื่องจากระดับน้ำสูงและท่วมหลายหมู่บ้าน อาทิ
• หมู่ 2, 3, 4, 5 ตำบลกงหรา
• หมู่ 2, 4, 6 ตำบลคลองทรายขาว
• หมู่ 4, 5, 6, 8 ตำบลชะรัด

อุทกภัยครั้งนี้สร้างความเสียหายทั้งต่อชีวิต ทรัพย์สิน บ้านเรือน พื้นที่เกษตร ประมง ปศุสัตว์ และสาธารณูปโภคพื้นฐาน ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ยุติ จำเป็นต้องเร่งให้การช่วยเหลือโดยด่วน

เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง ร่วมกับ ปภ. เขต 12 ระดมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่บริเวณถนนเพชรเกษม พัทลุง–ตรัง หน้าโรงพยาบาลศรีนครินทร์ อำเภอศรีนครินทร์ เพื่อเร่งระบายน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด ซึ่งเป็นจุดที่มักเกิดน้ำท่วมสูงจนรถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรได้

ตลอดคืนที่ผ่านมา ฝนตกหนักทำให้ถนนเพชรเกษมฝั่งไปตรัง บริเวณหน้าโรงเรียนคลองลำยุง ถูกน้ำท่วมเป็นระยะทางราว 100 เมตร รถยนต์ยังสามารถผ่านได้ ส่วนสี่แยกโพธิ์ทอง เส้นทางควนขนุน–ศรีบรรพต มีระดับน้ำสูงประมาณ 30–40 เซนติเมตร แต่ยังใช้การได้

การประเมินสถานการณ์ล่าสุดชี้ว่า พัทลุงยังมีโอกาสเกิดฝนตกเพิ่มขึ้นถึง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ หลายจุดเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จังหวัดจึงสั่งเฝ้าระวังทุกอำเภออย่างใกล้ชิด ขณะที่สถานศึกษาจะประเมินอีกครั้งว่าต้องปิดเรียนเพิ่มอีก 1 วันหรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง