ไทย–สวิตเซอร์แลนด์กระชับสัมพันธ์ ในงานเฉลิมฉลองวันชาติสวิส มุ่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีและภาคสื่อสารมวลชน

ค่ำวานนี้ (20 พฤศจิกายน 2568) สถานเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย จัดงานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองวันชาติสมาพันธรัฐสวิส ซึ่งตรงกับวันที่ 1 สิงหาคมของทุกปี ณ สถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ กรุงเทพฯ โดยมีผู้แทนระดับสูงจากรัฐบาลไทย ภาคเอกชนและคณะทูตานุทูต เข้าร่วมอย่างคับคั่ง

นายเปโดร สวาห์เลน (H.E. Mr. Pedro Zwahlen) เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ พร้อมย้ำถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและสวิตเซอร์แลนด์ที่ยาวนานกว่า 90 ปี นำไปสู่ความร่วมมือหลายด้าน ครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การลงทุน การศึกษา การพัฒนาที่ยั่งยืน ตลอดจนความร่วมมือด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีขั้นสูงและเศรษฐกิจสีเขียว โดยทั้งสองประเทศยังคงมีความมุ่งมั่นร่วมกันในการส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค อีกทั้งยังสะท้อนถึงคุณค่าของนวัตกรรมที่ต้องอาศัยความเสี่ยงเป็นแรงขับเคลื่อน รวมถึงบทบาทของระบบประชาธิปไตยที่ช่วยยกระดับสังคม นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงสายสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ระหว่างราชวงศ์ไทยและสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ครั้งรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงใช้ช่วงวัยเยาว์ศึกษาในเมืองโลซาน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศแน่นแฟ้นมาจนถึงปัจจุบัน และได้กล่าวแสดงความอาลัยต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมทั้งแสดงความเสียใจต่อประชาชนชาวไทยด้วยความเคารพ

นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงานเฉลิมฉลองวันชาติสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมทั้งกล่าวแสดงความยินดีและชื่นชมประชาชนชาวสวิสในด้านวินัยเรื่องความตรงต่อเวลา สังคมที่มีพลเมืองที่มีศักยภาพสูงและความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมสีเขียวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่มีการค้าการลงทุนเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังให้ความสำคัญกับด้านการศึกษาและมุ่งมั่นยกระดับความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนเยาวชนเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจด้านวิชาการระหว่างกัน

ไทยคาดหวังว่าจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสวิตเซอร์แลนด์เพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความคึกคักและเสริมศักยภาพให้แก่ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยต่อไป

นางสุดฤทัย เลิศเกษม อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ พร้อมด้วยผู้แทนจากกองการต่างประเทศได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้และร่วมแสดงความยินดี พร้อมทั้งแนะนำการทำงานของกรมประชาสัมพันธ์ในฐานะหน่วยสื่อของรัฐบาลและพร้อมสนับสนุนการทำงานร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตเพื่อนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน การเข้าร่วมงานในครั้งนี้จึงนับเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างเครือข่าย เชื่อมโยงความร่วมมือ และเปิดประตูสู่การพัฒนาความสัมพันธ์ด้านสื่อสารมวลชนระหว่างสองประเทศในอนาคต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง