นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีมีแนวโน้มยุบสภา หากมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า การยุบสภาเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประชาชน อีกทั้งไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่ไม่ประสงค์ให้อำนาจการยุบสภาถูกใช้เพื่อหลีกหนีการตรวจสอบและเลี่ยงความรับผิดชอบทางการเมือง
โฆษกพรรคประชาชน กล่าวว่า ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOA) ระหว่างพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย ซึ่งประกอบด้วย การยุบสภา ภายในวันที่ 31 มกราคม 2569 และการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จตามกำหนด หากไม่มีการทำประชามติสองคำถามควบคู่ในการเลือกตั้ง ก็ถือว่าผิดเงื่อนไขของ MOA ทั้งนี้ หากนายกรัฐมนตรีตัดสินใจยุบสภาก่อนที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะแล้วเสร็จ อาจทำให้กระบวนการดังกล่าวไปไม่ถึงเป้าหมายที่ทุกฝ่ายต้องการ
ส่วนการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคประชาชน จะดำเนินไปตามเงื่อนไข 3 ประการที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ได้แก่ การยุบสภาไม่เป็นไปตามกำหนดใน MOA การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่แล้วเสร็จตามกรอบเวลา และกรณีนโยบายของรัฐบาลที่สร้างความเสียหายต่อประชาชน
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยกำลังพิจารณายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายพริษฐ์ ระบุว่า เป็นอำนาจและสิทธิโดยชอบของพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคประชาชนให้ความเคารพต่อการตัดสินใจดังกล่าว พร้อมย้ำว่า ทุกพรรคการเมืองมีเป้าหมายร่วมกันในการผลักดันให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จลุล่วง เพื่อให้ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตามที่ประชาชนคาดหวัง








