ดร.พรพิทักษ์ แม้นศิริ รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ได้รับ มอบหมายจาก นางสุดฤทัย เลิศเกษม อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ให้ร่วมแถลงข่าว ผลการดำเนินการ ด้านการประชาสัมพันธ์และการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ของ ศปอส.ตร. และคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ป้องกันการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีโดยมี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. และประธานอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ป้องกันการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 1, พล.ต.ต.คมกฤช สุขไทย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3, พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3, นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการและโฆษกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และ ดร.ดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการฯ ร่วมแถลงผลการดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ของ ศปอส.ตร. และคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ป้องกันการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร่วมแถลง
ณ ห้องสารสิน ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

กรมประชาสัมพันธ์ ได้มีส่วนร่วมในการขยายผลด้านการปราบปราบ สู่ประชาชนให้ได้ตระหนักรู้ร่วมกัน เนื่องจากเป็นภัยที่เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งกรมประชาสัมพันธ์ได้นำหน่วยงานสื่อ ทั้ง สื่อโทรทัศน์ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ให้ผลิตเพิ่มรายการพิเศษ การจัดทำภาพข่าว ข่าวต้นชั่วโมง รวมถึงงานด้านวิทยุกระจายเสียงที่ครอบคลุมทุกภูมิภาค ทั้ง 75 สถานี 104 คลื่นความถี่ ทั้ง AM และ FM พร้อมขยายผลในเรื่องเดียวกัน มีการประชาสัมพันธ์ร่วมกับหอกระจายข่าว โดยผลิตรายการตีฆ้องร้องข่าว ออกอากาศเป็นประจำทุกเช้า ประชาสัมพันธ์เรื่องการปราบปรามและรณรงค์ประชาชนในการป้องกันในการสร้างภูมิคุ้มให้ประชาชนให้ถึงในหมู่บ้านและชุมชนผ่านหอกระจายข่าว งานด้าน Social Media เช่น TIK TOK โดยกรมประชาสัมพันธ์ มี account ของหน่วยงาน ร่วม 300 บัญชี ได้ร่วมผลิตชิ้นงาน ทั้งนี้ กรมประชาสัมพันธ์ ได้มีการจัดเครือข่ายประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ ให้ร่วมกับรณรงค์ให้พี่น้องประชาชน ได้รับรู้ เป็นตัวแทนในการขยายผลต่อไป

ทั้งนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ฯ ได้เน้นย้ำว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องและเข้มงวด โดยเฉพาะการพนันออนไลน์ซึ่งเป็นต้นเหตุของการฟอกเงินและความเสียหายทางเศรษฐกิจในวงกว้าง พร้อมทั้งกำชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนและบังคับใช้กฎหมายฟอกเงินเพื่อยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดอย่างเด็ดขาด








