“รมว.พัฒนา“ สั่งการพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ เปิด PHEOC เกาะติดสถานการณ์ เพื่อให้การช่วยเหลือปชช. ทันท่วงที
รมว. กระทรวงสาธารณสุข ออก 6 ข้อสั่งการ ให้พื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ เปิดศูนย์ PHEOC ทุกจังหวัด พร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที, เร่งรัดการเยี่ยมบ้านคัดกรองกลุ่มเปราะบาง, แจกจ่ายยาชุดช่วยเหลือน้ำท่วม ยารักษาโรคเรื้อรัง และอุปกรณ์ป้องกันโรคติดต่อ, โรงพยาบาล และรพ.สต. ที่ได้รับผลกระทบ ให้ตั้งจุดบริการชั่วคราวในพื้นที่ปลอดภัย, เฝ้าระวังโรคที่มากับน้ำ และสำรวจความเสียหายต่อบุคลากรสถานบริการ พร้อมวิเคราะห์ความเสี่ยงต่อการให้บริการใน 72 ชั่วโมงข้างหน้า เผย อำเภอหาดใหญ่สถานการณ์ยังวิกฤติ ได้ร่วมกับทหาร หน่วยงานต่างๆ ตั้งศูนย์พักพิงรองรับพร้อมดูแลสุขภาพผู้ป่วยและประชาชนอย่างใกล้ชิด ส่วนกลางส่งยาชุดน้ำท่วมลงพื้นที่แล้ว 11,500 ชุด
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกลติดตามสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ในพื้นที่ภาคใต้ ร่วมกับ นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาล โดยมีหน่วยงานในพื้นที่ประสบภัย ร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์
พื้นที่ภาคใต้สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง จากการลงพื้นที่พร้อมนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ พบว่าหลายพื้นที่มีน้ำท่วมขัง และยังคงมีฝนตกเพิ่มเติม ประกอบกับสภาพพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มรองรับน้ำจากแนวภูเขาโดยรอบ และมีทางระบายน้ำไม่มากนัก ทำให้มีความเสี่ยงสถานการณ์รุนแรงขึ้น จึงมีข้อสั่งการ ดังนี้
1) ให้ PHEOC ทุกจังหวัดติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
2) ให้ทุกจังหวัดเร่งรัดการเยี่ยมบ้านและคัดกรองกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะกลุ่มติดเตียง หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก ผู้พิการ ผู้ฟอกไต และผู้สูงอายุ
3) แจกจ่ายยาชุดช่วยเหลือน้ำท่วม ยารักษาโรคเรื้อรัง และอุปกรณ์ป้องกันโรคติดต่อให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างทั่วถึง
4) ให้โรงพยาบาล และ รพ.สต. ที่ได้รับผลกระทบตั้งจุดบริการชั่วคราวในพื้นที่ปลอดภัย
5) ให้เฝ้าระวังโรคที่มากับน้ำ อาหาร น้ำดื่ม สุขาภิบาลในพื้นที่พักพิง และเข้มงวดการควบคุมป้องกันโรคอุจจาระร่วง น้ำกัดเท้า โรคทางเดินหายใจ และโรคจากสัตว์มีพิษ
6) ให้สำรวจความเสียหายต่อบุคลากร สถานบริการ และอุปกรณ์ พร้อมวิเคราะห์ความเสี่ยงต่อการให้บริการในระยะ 72 ชั่วโมงข้างหน้า
สำหรับจังหวัดสงขลา ขณะนี้น้ำเริ่มสูงขึ้นในทุกอำเภอ โดยเฉพาะหาดใหญ่ ที่ได้รับผลกระทบมาก ได้มีการตั้งศูนย์พักพิงโดยมีค่ายเสนาณรงค์เป็นศูนย์บัญชาการใหญ่ การดูแลผู้ป่วยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ รวมถึงภาคเอกชน และมูลนิธิ ใช้เรือเร็วเข้ารับผู้ป่วย กลุ่มเปราะบางที่ติดค้างในบ้าน มาส่งยังรถทหาร เพื่อนำส่งศูนย์พักพิง ที่ศูนย์กีฬามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งรองรับได้ 1,000 คน และได้เตรียมมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา มหาวิทยาลัยทักษิณ กองทัพเรือ และค่ายเสนาณรงค์ ไว้รองรับผู้ป่วยและประชาชน พร้อมทั้งจัดบริการทางการแพทย์ในศูนย์พักพิงทุกแห่ง รวมทั้งส่วนกลางยังได้สนับสนุนยาชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้กับพื้นที่สงขลา 8,000 ชุด นครศรีธรรมราช 500 ชุด ปัตตานี 1,000 ชุด ตรัง 1,000 ชุด สตูล 1,000 ชุด รวม 11,500 ชุด
ทั้งนี้ ภาพรวมมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 8 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ตรัง สตูล ปัตตานี และยะลา หน่วยบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบรวม 50 แห่ง เป็น โรงพยาบาล 11 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 34 แห่ง และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) 5 แห่ง ในจำนวนนี้ต้องปิดบริการ 17 แห่ง ปิดบางส่วน 7 แห่ง และเปิดให้บริการตามปกติ 26 แห่ง มีผู้เสียชีวิต 19 ราย สาเหตุส่วนใหญ่จากการจมน้ำ 13 ราย ไฟฟ้าดูด 4 ราย และดินถล่ม 2 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 12 ราย และสูญหายอีก 1 ราย ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่ายังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากต่อเนื่อง จึงยังต้องเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง










