นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากที่ได้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้หลายพื้นที่ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จึงได้ระดมสรรพกำลังและทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัยจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต จาก 8 ศูนย์ ปภ. เขต ทั่วประเทศ เข้าสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ประสบภัย สำหรับแผนการทำงานได้แบ่งพื้นที่ (Zoning) ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดย ปภ. ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบพื้นที่ฝั่งตะวันตกของคลองอู่ตะเภา และคลอง ร.1 ประกอบด้วย ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ ตำบลคลองหอยโข่ง ตำบลคลองหลา ตำบลทุ่งลาน อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา และบางส่วนของพื้นที่เทศบาลนครหาดใหญ่
นอกจากนี้ ปภ. ยังได้บูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย ในการรวบรวมข้อมูลรับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ผ่านสายด่วน ปภ. 1784 โดย ปภ. ได้ขยายคู่สายเพิ่มอีก 60 คู่สาย เพื่อรองรับการแจ้งเหตุและการขอรับความช่วยเหลือในพื้นที่ โดยบูรณาการข้อมูลร่วมกับศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัยจะนำข้อมูลที่ได้มาคัดกรองและแบ่งเคสการช่วยเหลือ ทั้งกรณีเร่งด่วนวิกฤติ และกรณีติดค้าง โดยข้อมูลที่ได้นี้จะส่งไปยังที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า เพื่อเข้าดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย
โดยศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลให้เป็นระบบ ลดความซ้ำซ้อน และประสานงานต่อไปยัง ศป.กฉ. ส่วนหน้า เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยมีขั้นตอนการดำเนินงาน ดังนี้
1. การขอความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยโทรแจ้งเหตุ หรือขอความช่วยเหลือได้ที่ 1784 และ 1111
2. ศป.กฉ. ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดเพื่อคัดกรองและแบ่ง “ระดับสี” ตามความรุนแรงของสถานการณ์ สีแดง : สถานการณ์รุนแรงและวิกฤต ต้องได้รับความช่วยเหลือด่วน สีเหลือง : ผู้ที่ยังอาศัยอยู่ภายในบ้าน
แต่ขาดแคลนน้ำหรืออาหาร
3. ประสานข้อมูลไปยัง ศป.กฉ.ส่วนหน้า จังหวัดสงขลา เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือ โดยแบ่งตามเขตรับผิดชอบ ได้แก่
– เขต 1 : กรมพัฒนาที่ 4 และกองพันพัฒนาที่ 4
– เขต 2 : กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 5 (ร.5 พัน.1)
– เขต 3 : กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 5 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 (ป.5 พัน.5)
– เขต 4 : กองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 42 (พัน.ร.มทบ.42)
4. ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือทันที โดยแบ่งเป็น 4 ด้านการบริหารจัดการ ได้แก่
– บริหารจัดการคน สำรวจพื้นที่ อพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย
– บริหารจัดการสิ่งของ ส่งมอบสิ่งของจำเป็นให้แก่ประชาชน
– บริหารจัดการน้ำ เร่งระบายน้ำให้ลดลง
– บริหารจัดการข้อมูลข่าวสาร ชี้แจงข้อเท็จจริง สื่อสารสถานการณ์ต่อเนื่อง
เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ศูนย์ฯ จะยังทำหน้าที่จัดการข้อมูลและสิ่งของในศูนย์อพยพแต่ละแห่งให้เป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพต่อไป
ขณะนี้หลายหน่วยงานได้เร่งจัดทำมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบอุทกภัย โดย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการน้ำในสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (ศนภ.) นำเรือกรมประมงและรถของกรมชลประทาน นำน้ำและอาหารไปแจกจ่ายให้กับประชาชน รวมถึงอพยพผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่น้ำท่วมสูง โดยได้จัดระเบียบในการปฏิบัติงานช่วยเหลือชีวิตประชาชนได้ตั้งศูนย์บัญชาการที่ห้างโลตัส หาดใหญ่ ซึ่งมีพร้อมทั้งอาหารและน้ำไว้สำหรับบริการประชาชน รวมถึงรับเรื่องร้องทุกข์ประชาชนที่ติดค้างอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมสูง โดยนำเรือของกรมประมงและกรมชลประทานตระเวนอพยพประชาชนตามที่ได้รับเรื่องไว้ตามลำดับ จากนั้นจะนำมาส่งที่ห้างโลตัส และนำประชาชนไปส่งที่ศูนย์พักพิงโรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ โดยรถสิบล้อของกรมชลประทาน ทั้งนี้ยอมรับว่าอาหารที่ลำเลียงเข้าไปด้านในไม่เพียงพอ แต่จะเร่งแก้ปัญหาด้วยการลำเลียงอาหารเข้าไปอย่างต่อเนื่อง ส่วนการอพยพผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งพบปัญหาที่ได้แก้ไขคือการใช้เรือท้องแบนเข้าไปรับผู้ป่วยและผู้ประสบภัยเพราะเจ็ตสกีบางครั้งต้องทำความเร็วในการขับ จึงอาจทำให้กระแสน้ำพัดเข้าบ้านประชาชนมากขึ้น ยืนยันว่า เรายังอพยพประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมสูงอย่างต่อเนื่อง
ส่วนกรมปศุสัตว์ ลงพื้นที่ช่วยเหลือน้ำท่วม จังหวัดสงขลา ร่วมแจกจ่ายเสบียงยังชีพ ผลิตภัณฑ์ไข่ต้มพะโล้พร้อมทาน จำนวน 25,000 ฟอง และอาหารสุนัขและแมว จำนวน 1,700 กิโลกรัม ส่งถึงมือเกษตรกร และประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลาเป็นที่เรียบร้อย
ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งระดมสรรพกำลังเต็มรูปแบบ เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เน้นย้ำให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่อื่น ๆ โดยเฉพาะในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่ยังเข้าถึงได้ยาก พร้อมจัดส่งอาหาร น้ำดื่ม ยา และเวชภัณฑ์ที่จำเป็นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานประสานข้อมูลสถานการณ์กันแบบเรียลไทม์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ภาคสนาม นอกจากนี้ ได้สั่งการด่วนให้ตั้ง War Room เพื่อรับมือสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทำหน้าที่เป็นศูนย์บัญชาการกลาง ประสานทุกหน่วยงานในสังกัด ทส. รวมถึงหน่วยปฏิบัติการภาคสนาม เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมระดมกำลัง เจ้าหน้าที่ เครื่องจักร อุปกรณ์กู้ภัย และเฮลิคอปเตอร์ทุกลำ เข้าพื้นที่ประจำการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมสนับสนุนภารกิจขนย้ายผู้ประสบภัย ส่งอาหารและน้ำดื่ม และรับ–ส่งผู้ป่วยฉุกเฉินอย่างต่อเนื่อง
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สั่งการให้กรมการค้าภายในจัดตั้ง War Room เป็นศูนย์ประสานกลางเพื่อติดตามสถานการณ์แบบรายชั่วโมง เชื่อมโยงข้อมูลจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดและทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรวบรวมข้อมูลผลกระทบที่เกิดขึ้น เพื่อให้มาตรการช่วยเหลือถูกส่งไปถึงประชาชนและผู้ประกอบการโดยเร็วที่สุด โดยดำเนินมาตรการเร่งด่วน 4 แนวทาง ได้แก่ 1) ประสานศูนย์พักพิงเพื่อจัดส่งวัตถุดิบอาหารและของใช้จำเป็นสำหรับการประกอบอาหารให้เพียงพอต่อจำนวนผู้พักพิง 2) ประสานผู้ประกอบการ ห้างโมเดิร์นเทรด และสมาคมไข่ไก่ เพื่อเติมสินค้าอุปโภค–บริโภคจำเป็นเข้าสู่พื้นที่ที่มีความต้องการและพื้นที่ที่การขนส่งเข้าถึงยาก 3) เตรียมจัดถุงยังชีพในพื้นที่ที่ระดับน้ำเริ่มลดลง เพื่อสนับสนุนทั้งประชาชน ครัวเรือนรายย่อย และผู้ประกอบการขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบให้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตและทำธุรกิจได้เร็วที่สุด และ 4) เตรียมจัดงานธงฟ้าหลังน้ำลด โดยเน้นสินค้าจำเป็นในการทำความสะอาดบ้านเรือนและสถานประกอบการ รวมถึงสินค้าอุปโภค–บริโภคราคาประหยัด และให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ให้บริการจดทะเบียน และให้หนังสือรับรองออนไลน์ โดยให้เจ้าหน้าที่รับจดส่วนกลางให้บริการกับผู้ขอรับบริการจากพื้นที่ประสบอุทกภัยเป็นการเร่งด่วน
ด้านการดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้เตรียมทีม Mini MERT (Mini Medical Emergency Response Team) จาก 11 เขตสุขภาพ (ยกเว้นเขตฯ 12) ไว้ 30 ทีม เป็นทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์เคลื่อนที่เร็ว ที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า สนามบินหาดใหญ่ มีกำหนดปฏิบัติภารกิจตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2568 ส่วนทีม MERT วชิระภูเก็ต พร้อมเรือ 2 ลำและอุปกรณ์ยังชีพ จะออกเดินทางไปปฏิบัติงานได้วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ทีม MCATT 6 ทีม จากโรงพยาบาลศรีธัญญา สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา โรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ และโรงพยาบาลสวนสราญรมย์สุราษฎร์ธานี ร่วมดูแลสุขภาพจิตประชาชน เบื้องต้นจะปฏิบัติงานที่ศูนย์พักพิงเทศบาลควนลัง ผู้พักพิงประมาณ 500 คน และศูนย์พักพิงบริษัทหาดทิพย์ ผู้พักพิงประมาณ 200 คน และสนับสนุนการจัดบริการของโรงพยาบาลสนาม ทั้งสนามบินหาดใหญ่และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ส่วนการสนับสนุนยา/เวชภัณฑ์ โดยเฉพาะถังออกซิเจน ได้จัดหาไว้ 255 ท่อ อยู่ระหว่างทยอยลำเลียงส่งให้กับโรงพยาบาลหาดใหญ่
นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์และการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในพื้นที่อุทกภัยภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและสั่งการให้ ทีม พม. ใกล้คุณ ทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่ประสบอุทกภัย จัดตั้งศูนย์คัดแยกกลุ่มเปราะบางออกจากประชาชนทั่วไป และให้ทีม พม. ใกล้คุณ จังหวัดใกล้เคียง ระดมเจ้าหน้าที่ พม. เข้าไปช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย พร้อมทั้งช่วยคัดแยกกลุ่มเปราะบาง เพื่อนำข้อมูลส่งต่อให้กับทีมแพทย์โรงพยาบาลช่วยเหลือต่อไป
ทางด้าน พลเอก อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สั่งการ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ส่วนหน้า เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง พร้อมเร่งลำเลียงอาหาร และสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้ถึงมือประชาชนอย่างรวดเร็วที่สุด และสั่งการให้ทุกหน่วยดำเนินงานร่วมกับจังหวัดสงขลา ปภ. ตำรวจ และหน่วยทหารในพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุด ทั่วถึงที่สุด และไม่ทอดทิ้งประชาชนในยามวิกฤต
พลโท นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งการให้มีการระดมเฮลิคอปเตอร์เพื่อปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน สำรวจเส้นทางคมนาคมในพื้นที่ประสบภัย รวมถึงการลำเลียงอาหารและน้ำดื่มทางอากาศไปยังจุดที่การเข้าถึงยาก โดยเน้นการช่วยเหลือใน 3 พื้นที่หลัก ได้แก่ เทศบาลนครหาดใหญ่ โรงเรียนเทศบาล 2 (บ้านหาดใหญ่) บริเวณท่าแซ รวมถึงแคมป์คนงานก่อสร้าง ซึ่งได้รับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ แบบอากาศยาน 212 จากกองทัพภาคที่ 2 ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยเร่งลงพื้นที่นำกำลังพลและเครื่องมือบรรเทาสาธารณภัย เข้าช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง และยังร่วมกับศูนย์ช่วยเหลืออุทกภัย องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดรถบัส 4 คัน อำนวยความสะดวกให้แก่ชาวนครศรีธรรมราช และพื้นที่ใกล้เคียงที่อพยพอยู่ในพื้นที่หาดใหญ่ และมีความประสงค์เดินทางกลับภูมิลำเนา
ส่วน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้จัดมาตรการเร่งด่วน ผ่านมาตรการเสริมสภาพคล่องและฟื้นฟูให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท ประกอบด้วย
1) โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน เสริมสภาพคล่องเกษตรกรในด้านค่าใช้จ่ายทั่วไป เช่น ค่าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือนแรก เดือนที่ 7 เป็นต้นไป คิดอัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 6.625%) วงเงินกู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท
2) โครงการสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อเป็นค่าลงทุนในการซ่อมแซมบ้านเรือนและทรัพย์สิน ค่าซ่อมเครื่องมือและอุปกรณ์การเกษตรที่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติ รวมถึงเป็นค่าใช้จ่ายในการทำการเกษตรรอบใหม่ วงเงินรายละไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR-2
สามารถแจ้งความประสงค์เพื่อขอรับการช่วยเหลือได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02 555 0555 ตลอด 24 ชั่วโมง








