นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวง ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข หรือ PHEOC เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้และ จังหวัดสงขลา
นายพัฒนา กล่าวว่า ภารกิจหลักในวันนี้คือ การเคลื่อนย้ายส่งต่อ ผู้ป่วยหนักสีแดงของโรงพยาบาลหาดใหญ่ ที่ทั้งหมดใส่ท่อช่วยหายใจ ประมาณ 20 คน กระบวนการเคลื่อนย้าย ใช้เฮลิคอปเตอร์เป็นหลัก คาดว่าในส่วนของการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหนักในวันนี้น่าจะเสร็จสิ้น โดยเป้าหมายหลักจะเคลื่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ก่อน ใช้ระยะเวลาประมาณ 5 – 10 นาที จากนั้นแพทย์ก็จะประเมินและทยอยเคลื่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง ที่ไม่ได้อยู่พื้นที่ประสบภัย ก็จะทำให้โรงพยาบาลหาดใหญ่ ดูแลกลุ่มผู้ป่วยสีเหลืองและสีเขียว รวมประมาณ 500 คน
ในส่วนของการขนส่งเสบียงอาหารและน้ำ ได้เร่งรัดแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการให้มีความเพียงพอต่อความต้องการของบุคลากร ผู้ป่วยและญาติ ซึ่งบางส่วนทางโรงพยาบาลสามารถที่จะผลิตจากโรงครัวของตัวเองได้ โดยสนับสนุนวัตถุดิบการทำอาหารเพิ่มเติม
โดยขณะนี้สถานการณ์น้ำภาพรวม ของจังหวัดสงขลาและบริเวณโดยรอบโรงพยาบาลหาดใหญ่ ถือว่าลดระดับลงต่อเนื่อง ทำให้ทีมบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากพื้นที่ต่างๆ สามารถที่จะเดินทางเข้าไปช่วยสนับสนุนภารกิจในการดูแลผู้ป่วยได้ โดยใช้รถทหารในการขนส่ง
ซึ่งจะทำให้มีการสลับหมุนเวียนกำลังกันได้ ทั้งในโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนามที่ได้มีการจัดตั้งเพิ่มเติมประมาณ 7 แห่ง ประกอบด้วย โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ดูพื้นที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี จัดที่เทศบาลคลองเรียน โรงพยาบาลตรัง จัดที่ศาลาว่าการนครหาดใหญ่ โรงพยาบาลพัทลุง ร่วมกับโรงพยาบาลรัตภูมิ โรงพยาบาลยะลา เทศบาลควนลัง โรงพยาบาลนราธิวาส บริษัท หาดทิพย์และโรงพยาบาลสงขลา ที่สนามบินหาดใหญ่ เพื่อรองรับการให้บริการดูแลประชาชนที่ คาดว่าจะเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นหลังสถานการณ์น้ำลด สำหรับโรงพยาบาลสนาม จะมีผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดใกล้เคียงเข้ามาร่วมในการดูแลด้วย
ยืนยันว่า โรงพยาบาลหาดใหญ่ จะไม่ปิดให้บริการ จะพยายามรักษาเอาไว้และรีบกู้โรงพยาบาลให้กลับมาให้บริการประชาชนผู้ป่วย ได้อย่างเร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้สถานการณ์น้ำเริ่มลดโดยอยู่ระหว่างการสนับสนุน กำลังคน เวชภัณฑ์ต่างๆ เข้าไปในพื้นที่
ส่วนออกซิเจนที่อยู่ในโรงพยาบาล น่าจะเพียงพอในการดูแลผู้ป่วย ประมาณ 48 ชั่วโมง ถือว่าเพียงพอและมีการสนับสนุนเข้าไปเพิ่มเติมด้วย
ส่วนหลังจากนี้ ก็จะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู ระบบสาธารณสุขทั้งหมด โดยจะมีกรมอนามัยและกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ลงพื้นที่เข้าไปสำรวจและดูแลในประเด็นดังกล่าว เพื่อให้ระบบสาธารณสุขกลับมามีความพร้อมมากที่สุด รวมถึงกรมควบคุมโรคจะเข้าไปดูในส่วนของการป้องกัน ควบคุมโรคหลังจากน้ำลด สนับสนุน ยา วัคซีนป้องกันโรค
รวมถึงการจัดส่งทีมแพทย์สาธารณสุขหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เข้าไปตามชุมชนต่างๆ สำรวจและประเมินโรคของประชาชน เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษา
ทั้งนี้ในพื้นที่ ทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลและสาธารณสุขจังหวัด จะเป็นผู้ประเมินถึงความต้องการยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ หากไม่เพียงพอสามารถที่จะทำเรื่องขอมายังส่วนกลางโดยทางส่วนกลางพร้อมสนับสนุนและจัดส่งให้ทันที
ขณะที่ ประเด็นผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วม ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ในประเด็นนี้ถือเป็นผลกระทบต่อเนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วม ที่คาดว่าจะต้องเจอ โดยได้มอบให้ทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลในพื้นที่ รวมถึงโรงพยาบาลสนาม จัดเตรียมอุปกรณ์และ พื้นที่ห้องเย็น สำหรับกรณีในการดูแลผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วม ซึ่งจะมีขั้นตอน กระบวนการพิสูจน์อัตลักษณ์ ก่อนที่จะยืนยันอย่างเป็นทางการ
ส่วนโรงพยาบาลพื้นที่รอบนอกโรงพยาบาลหาดใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลชุมชน พบว่าหลายแห่ง กลับมาเปิดให้บริการ โดยอยู่ระหว่างการประเมินความเสียหาย .
ด้านนายแพทย์วิโรจน์ โยมเมือง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหาดใหญ่ ระบุว่า ช่องทางหลักขณะนี้ ที่จะสามารถเข้ามายังโรงพยาบาลได้ หลังจากสถานการณ์น้ำลดลงคือ บริเวณประตูหลังโรงพยาบาล เบื้องต้นมีผู้ป่วยและญาติที่มีความประสงค์อยากจะกลับบ้านประมาณ 200 คน
ส่วนทรัพยากรอื่นๆ เช่น ออกซิเจน มีประมาณ 50 ถัง เพียงพอสำหรับวันนี้ โดยวันนี้หากน้ำลด จนสามารถเข้าพื้นที่ได้ จะมีเจ้าหน้าที่ เข้ามาดูในเรื่องของอุปกรณ์หลักในการผลิตออกซิเจน ซึ่ง 1 ถัง จะอยู่ได้อีก 7 วัน น้ำดื่มใช้วันละประมาณ 600 แพค ซึ่งเมื่อช่วงเช้าได้มาแล้วประมาณ200 แพค เบื้องต้นได้รับการประสานเพิ่มเติม จะมีการนำน้ำดื่มเข้ามายังโรงพยาบาลเพิ่ม
ขณะที่การทำอาหารทางโรงพยาบาลสามารถผลิตเองได้ 2,600 กล่อง เพื่อรองรับผู้ป่วยและบุคลากร เมื่อวานนี้ได้รับการจัดส่งวัตถุดิบมาให้กับทางโรงพยาบาลทำอาหาร เบื้องต้นทำได้ประมาณสองวัน และคาดว่าวันนี้จะนำวัตถุดิบเข้ามายังโรงพยาบาลเพิ่มเติมอีก
โดยสิ่งที่ต้องการ ตอนนี้คือ อยากได้รถน้ำประปา เข้ามายังพื้นที่โรงพยาบาล เพื่อผลิตน้ำใช้ภายใน ส่วนระบบไฟฟ้า ขณะนี้ ตึกหลักไม่ได้มีปัญหาในการดูแลผู้ป่วย แต่ยังคงมีตึกที่ยังไม่เปิดใช้ ประมาณ2-3 ตึก เนื่องจากระบบไฟฟ้าขัดข้องและใช้การไม่ได้จากการจมน้ำ โดยวันนี้จะมีเจ้าหน้าที่จากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เข้ามาประเมินทั้งระบบน้ำปั๊มน้ำและระบบไฟฟ้า
ขณะที่ อาคาร 600เตียง ของโรงพยาบาลหาดใหญ่ สามารถใช้การได้ในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว ประมาณ 200-300 เตียง ในส่วนของระบบไฟ ใช้ในส่วนของเครื่องปั่นไฟ เป็นน้ำมัน เบนซิน สามารถจ่ายไฟได้ 5 ชั้น โดยต้องใช้น้ำมัน ประมาณ200-300 ลิตรต่อวัน ซึ่งเมื่อคืนสามารถใช้การได้ประมาณ 6 ชั่วโมง
คาดการณ์ว่า หลังจากสถานการณ์น้ำเริ่มคลี่คลาย จะทำให้ประชาชนผู้ป่วยที่มีนัดกลับเข้ามายังโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น ในส่วนนี้ สามารถที่จะรองรับได้ประมาณ 350 เตียง โดยมีทีมแพทย์พยาบาลสนับสนุนจากนอกพื้นที่ ที่ได้เดินทางมาช่วยในครั้งนี้








