ศป.กฉ. แถลง รัฐบาลเดินหน้าช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ออกมาตรการระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว ให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติโดยเร็ว
(27 พ.ย. 68) นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ในฐานะกรรมการและโฆษกศูนย์ และ ดร.รัชดา ธนาดิเรก ในฐานะกรรมการและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัยส่วนหน้า ร่วมกันแถลงข่าว สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
เมื่อช่วงเช้านายกฯ ได้เชิญ 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม บูรณาการการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ทั้งนี้ ศป.กฉ. ได้แต่งตั้ง น.ส.รัชดา ธนาดิเรก เป็นโฆษก ศป.กฉ. อีกหนึ่งคนด้วย
จำนวนผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์มหาอุทกภัยที่ จ.สงขลา ซึ่งได้รับการรายงานข้อมูลถึงวันที่ 27 พ.ย. 68 จากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ มีผู้เสียชีวิตใน จ.สงขลา จำนวน 85 ราย โดยแบ่งเป็น การเสียชีวิตจากอุกทกภัย 55 ราย และเสียชีวิตจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่สถานการณ์น้ำท่วม 30 ราย ศูนย์ ศป.กฉ. ส่วนหลังได้ส่งข้อมูลไปให้ ศูนย์ ศป.กฉ. ส่วนหน้า ในกรณีที่มีการร้องขอให้ช่วยเหลือเร่งด่วนจำนวน ทั้งสิ้น 4,010 เคส จาก 2 แพลตฟอร์ม คือ Traffy Fondue และ HatYaiFlood และช่องทางที่มาจากคอลเซ็นเตอร์ ทั้งหมด 4,010 เคส สามารถดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 3,492 เคส คิดเป็น 87%
การส่งมอบอาหาร ส่งมอบแล้วจำนวน 10,000 ชุด มีกำลังผลิตวันละ 60,000 ชุดสำหรับดูแลประชาชนที่อยู่ในศูนย์พักพิงฯ วันนี้คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะลดลงต่ำกว่าตลิ่งในทุกจุด ต้องมีการเร่งระบายน้ำ เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น
สำหรับกรณีตัวเลขผู้เสียชีวิต รัฐบาลขอยืนยันว่าจะให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการกดตัวเลขให้ต่ำ หรือทำตัวเลขให้สูง สิ่งที่รัฐบาลต้องการคือการสื่อสารถึงประชาชนอย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ทำข้อตกลงรับการสนับสนุนจาก SpaceX ใช้งาน Starlink แก้ปัญหาระบบเครือข่ายสื่อสารล่มในพื้นที่สถานการณ์ฉุกเฉิน จ.สงขลารัฐบาลได้มีการวางแผน ที่จะช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้อย่างครบวงจร ทั้งระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว
เบื้องต้นในระยะเร่งด่วน ผู้ประสบอุทกภัยต้องได้รับอาหารครบถ้วน ยาและสิ่งของจำเป็น ในช่วงเวลา 17.00-18.00 น.เครื่องบิน C-130 จะลำเลียงสิ่งของให้ประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ พร้อมได้กำชับเรื่องการจัดสรรงบประมาณอย่างเต็มที่ ขยายกรอบวงเงินทดรองราชการผู้ว่าราชการจังหวัดจากเดิมที่กำหนดให้ 50 ล้านบาท วันนี้จะขยับเป็น 100 ล้านบาท
ส่วนระยะที่ 2 และระยะที่ 3 คือ การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จะเป็นการบูรณาการของทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลังและภาคส่วนต่าง ๆ เช่น มาตรการพักหนี้พักดอกเบี้ยของธนาคารรัฐ สำหรับลูกหนี้วงเงินรวมทุกบัญชีไม่เกิน 1,000,000 บาท ให้ได้รับการพักหนี้ทั้งต้นและดอก 6 เดือน ซึ่งรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ย 6 เดือน ด้วยอัตรา 4.5% ให้กับธนาคารของรัฐ ในระยะเยียวยากลุ่มเป้าหมายเดิมที่มีวงเงินกู้คงเหลือสามารถกู้เพิ่มได้ไม่เกิน 100,000 บาท ดอกเบี้ย 0 % 6 เดือน และรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ย 6 เดือน
มาตรการนี้จะสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และผู้ประกอบการว่า เมื่อน้ำลดลงแล้วจะสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จะไปดูแลในเรื่องของบ้าน และการดำเนินกิจการ.กรณีเจ้าของรถยนต์ นายกฯ ได้กำชับให้ คปภ. สามารถเคลมประกันทันที ได้รับเงินหลังน้ำลด รวมทั้งมีมาตรการ ลดค่าน้ำค่าไฟ ยกเว้นภาษีเงินได้ ขยายเวลาการยื่นแบบภาษี ยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับเครื่องจักรและชิ้นส่วนที่เสียหาย สำหรับผู้ที่บริจาคช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้
ส่วนมาตรการในระยะยาว มีสินเชื่อเพื่อฟื้นฟู เช่น สำหรับที่อยู่อาศัย และโรงงาน รวมถึงมาตรการภาษีเพื่อช่วยค่าซ่อมบ้าน ซ่อมรถ สิ่งปลูกสร้าง รวมถึงสาธารณูปโภคต่างๆ
ทั้งนี้ นายกฯ ย้ำว่า การใช้งบประมาณแผ่นดินนอกจากจะเป็นการช่วยเหลือเยียวยา ยังเป็นการฟื้นฟูชีวิตของประชาชนและเศรษฐกิจ ให้ฟื้นตัวโดยเร็ว และมาตรการกระทรวงแรงงาน ช่วยเหลือประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัย ร้อยละ 50 ของค่าจ้าง สูงสุดไม่เกิน 180 วัน แต่ไม่เกิน 15,000 บาท และยังมีโครงการสินเชื่อส่งเสริมการจ้างงาน สำหรับลูกจ้างที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ หรือเครดิตยูเนี่ยน สามารถกู้เงินเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ย 2 % ต่อปี
.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม มีนโยบาย สั่งเลื่อนการสอบของนักศึกษาที่อยู่ในมหาวิทยาลัยออกไปก่อน ทั้งนี้จะมีศูนย์รับบริจาคที่พิพิธภัณฑ์ กองทัพอากาศ โดยจะนำสิ่งของบริจาคส่งถึงผู้ประสบอุทกภัยโดยเครื่องบิน C-130 และจะมีรถจากกองทัพอากาศและกองทัพบก นำไปส่งให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ








