นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดตรังว่า ตั้งแต่วันที่ 19–28 พฤศจิกายน 2568 เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากใน 9 อำเภอ 62 ตำบล 7 เทศบาล 33 ชุมชน 389 หมู่บ้าน รวม 14,253 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ในอำเภอย่านตาขาวและอำเภอวังวิเศษ
ด้านความเสียหายทางการเกษตร พบพื้นที่ประสบภัย 21,685 ไร่ ส่วนด้านประมงได้รับผลกระทบ 74.22 ไร่ ขณะที่ด้านปศุสัตว์มีสัตว์เลี้ยงเสียหายหลายชนิด ได้แก่ โค 64 ตัว หมู 2 ตัว ไก่พื้นเมืองและไก่งวงรวม 225 ตัว ไก่ไข่ 383 ตัว ไก่เนื้อ 3,500 ตัว เป็ดเนื้อ 20 ตัว และเป็ดไข่ 510 ตัว ในส่วนโครงสร้างพื้นฐาน ถนนเสียหาย 8 สาย ฝาย 1 แห่ง และสะพาน 3 แห่ง
สำหรับสถานศึกษาและสถานที่ราชการ พบวัดได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 30 แห่ง โรงเรียนปิดการเรียนการสอนชั่วคราว 52 แห่ง สถานศึกษาที่ประสบอุทกภัย 5 แห่ง และสถานที่ราชการ 3 แห่ง ได้แก่ ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอย่านตาขาว ศูนย์การเรียนรู้ระดับตำบลโคกสะบ้า และศูนย์การเรียนรู้ระดับตำบลช่อง อำเภอนาโยง
จังหวัดตรังได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน ครอบคลุม 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอห้วยยอด ย่านตาขาว ปะเหลียน นาโยง รัษฎา วังวิเศษ กันตัง เมืองตรัง และสิเกา รวม 57 ตำบล 4 เทศบาล 353 หมู่บ้าน 9 ชุมชน
สถานการณ์ล่าสุดพบว่าหลายพื้นที่เริ่มกลับสู่สภาวะปกติ ปริมาณฝนลดลง แต่ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำตรัง
อย่างไรก็ตาม จังหวัดตรังยังคงเดินหน้าฟื้นฟูความเสียหายอย่างเร่งด่วน ทั้งระบบสาธารณูปโภค ถนนหนทาง และพื้นที่ทำกิน พร้อมให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อเร่งจ่ายเงินช่วยเหลือตามระเบียบราชการ และเตรียมแผนฟื้นฟูอาชีพให้เกษตรกรภายหลังสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ








