นายสุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ติดตามและประสานหน่วยงานท้องถิ่นเฝ้าสถานที่กำจัดขยะและระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนที่อาจมีความเสี่ยงจากปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้ โดยสถานที่กำจัดขยะทุกแห่งไม่ได้รับความเสียหาย แต่อาจมีปัญหาเรื่องการขนส่งขยะเข้าไปกำจัด ส่วนระบบบำบัดน้ำเสีย 23 แห่งได้รับผลกระทบเล็กน้อย 3 แห่งคือ เทศบาลนครหาดใหญ่ เทศบาลนครสงขลา และเทศบาลนครยะลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ คพ. ลงพื้นที่ร่วมประเมินความเสียหายและเร่งปรับปรุงซ่อมแซม เพื่อให้ระบบบำบัดน้ำเสียได้ใช้งานตามปกติ
ภาพรวมจากการฟื้นฟูและจัดเก็บขยะหลังน้ำท่วมในจังหวัดสงขลา ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2568 เทศบาลนครสงขลา รวบรวมขยะได้ 1,684 ตัน จุดพักขยะเทศบาลนครหาดใหญ่ (สะพานดำ) รวบรวมขยะได้ 4,650 ตัน โรงไฟฟ้า TPI (ขยะเทศบาลนครหาดใหญ่) รวบรวมขยะได้ 527 ตัน เทศบาลเมืองบ้านพรุ รวบรวมขยะได้ 1,299 ตัน และเทศบาลเมืองสะเดา รวบรวมขยะได้ 368 ตัน รวมทั้งหมด 8,001 ตัน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 16 (สคพ.16) กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ยังได้ตรวจสอบคุณภาพน้ำภาคสนามและเก็บตัวอย่างน้ำจากทะเลสาบสงขลา คลองอู่ตะเภา คลองแห และคลองในพื้นทีอำเภอระโนด 11 จุด พบออกซิเจนละลายน้ำ (DO) มีค่า 0.0 – 4.2 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งบ่งชี้ถึงคุณภาพน้ำไม่ดีถึงพอใช้ อาจเกิดจากการปนเปื้อนสารอินทรีย์หรือน้ำท่วมขังทำให้ออกซิเจนในน้ำลดลง ความขุ่น (Turbidity) มีความผันผวนในแต่ละพื้นที่ คาดว่า เป็นผลมาจากน้ำท่วมที่พัดพาตะกอนลงสู่แหล่งน้ำ ส่วนความเป็นกรด – ด่าง (pH) ค่าการนำไฟฟ้าและความเค็มอยู่เกณฑ์ปกติ จึงได้เก็บตัวอย่างคุณภาพน้ำส่งห้องปฏิบัติการฯ วิเคราะห์ความสกปรกในรูปสารอินทรีย์ แบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์มทั้งหมด แบคทีเรียกลุ่มฟีคอลโคลิฟอร์ม และแอมโมเนียในหน่วยไนโตรเจน เพื่อประเมินคุณภาพน้ำจากสถานการณ์อุทกภัยและใช้ประกอบการวางแผนจัดการคุณภาพน้ำในพื้นที่ต่อไป
