บรรยากาศที่เทศบาลเมืองนราธิวาสเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากเป็นวันแรกของการเปิดรับลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยวงเงิน 9,000 บาท โดยมีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้า เทศบาลได้จัดระบบบัตรคิว เปิดรับคำร้องตั้งแต่เวลา 08.30–16.30 น. พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการกรอกแบบคำร้องและบันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบแบบเรียลไทม์ ก่อนส่งให้อำเภอพิจารณาตรวจสอบตามขั้นตอน
จากการสอบถามผู้ประสบภัยจำนวนหนึ่งสะท้อนว่า ต้องการให้มีการลดขั้นตอนเกี่ยวกับเอกสารประกอบการยื่นคำร้อง เนื่องจากหลายครัวเรือนมีเอกสารสำคัญเสียหายจากเหตุอุทกภัย ส่งผลให้การเตรียมเอกสารเป็นภาระ และทำให้การลงทะเบียนในวันนี้เกิดความวุ่นวายในบางช่วงเวลา
นายสมนึก เทพศร ประธานชุมชน 912 เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (1 ธันวาคม 2568) ได้เข้าร่วมประชุมกับเทศบาลเมืองนราธิวาส เพื่อรับฟังแนวทางการดำเนินงานเกี่ยวกับการจ่ายเงินเยียวยา 9,000 บาท โดยประธานชุมชนจำเป็นต้องมีบทบาทในการรับรองกรณีผู้อาศัยที่เป็นผู้เช่าหรือผู้ไม่มีบ้านเลขที่ ทั้งนี้ยอมรับว่าในปีนี้กระแสข่าวและการสื่อสารทางโซเชียลมีเดีย ทำให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลด้านการเยียวยาได้รวดเร็วขึ้น
สำหรับกรณีเจ้าของบ้านที่ได้รับผลกระทบ สามารถยื่นคำร้องได้ทั้งผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ flood68.disaster.go.th หรือยื่นด้วยตนเองที่ อปท. โดยไม่ต้องแนบเอกสาร เนื่องจากสามารถตรวจสอบข้อมูลจากระบบทะเบียนราษฎร์ได้ ส่วนผู้เช่าหรือผู้ไม่มีบ้านเลขที่ยังคงต้องนำเอกสารที่เกี่ยวข้องมายื่นประกอบ ซึ่งแม้ระบบบริหารจัดการของเทศบาลจะราบรื่น แต่ปริมาณผู้ประสบภัยจำนวนมากทำให้เกิดความติดขัดเป็นบางช่วง
ด้านนางสาวรศสุคนธ์ วัฒนธรรมเมธี ผู้ประสบภัยในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ระบุว่า ปีนี้บ้านและร้านค้าถูกน้ำท่วมหลายวัน ทำให้ได้รับความเสียหายและขาดรายได้ จึงรู้สึกดีใจที่รัฐบาลลดภาระการใช้เอกสารประกอบการยื่นขอเงินเยียวยา เพราะประชาชนจำนวนมากไม่สามารถเก็บรักษาเอกสารสำคัญไว้ได้จากเหตุอุทกภัย พร้อมขอบคุณรัฐบาลที่ให้ความสำคัญต่อผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ภาคใต้
นายอรรณพ คณานุรักษ์ ท้องถิ่นจังหวัดนราธิวาส ยืนยันว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ดำเนินงานตามแนวทางของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย โดยจังหวัดนราธิวาสได้ประชุมซักซ้อมแนวปฏิบัติร่วมกับ ปภ. และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) หลัง สถ. ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการทั้ง 9 จังหวัดภาคใต้ เพื่อเร่งรัดการให้ความช่วยเหลือประชาชนในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ ในระหว่างรอความชัดเจนเพิ่มเติม ยังคงต้องยึดแนวปฏิบัติตามเกณฑ์เดิม และให้เจ้าหน้าที่เร่งประชาสัมพันธ์ชี้แจงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่ยังไม่เข้าใจขั้นตอนการจัดเตรียมเอกสารในการขอรับเงินเยียวยา
