ครม. เห็นชอบ 3 มาตรการ เยียวยา-ฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย พักต้น-พักดอก เงินกู้ปลอดดอกเบี้ย 1 ปี จ่ายค่าปลงศพ 2 ล้านบาทต่อราย อนุมัติงบกลาง 530 ล้าน ให้ อบจ.สงขลา ฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่มาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู ผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ เห็นชอบการแยกบัญชีมาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้เป็นบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ (Public Service Account : PSA) เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการกำกับดูแล การตรวจสอบและการประเมินผลการดำเนินการของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (Specialized Financial Institutions: SFIs) ในการทำหน้าที่เป็นกลไกของรัฐ เพื่อฟื้นฟูและช่วยเหลือกลุ่มประชาชนและธุรกิจเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2552 โดยมอบหมายกระทรวงการคลัง (สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ และคณะอนุกรรมการประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ สาขาสถาบันการเงิน (SubPac)) พิจารณาในประเด็นการขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาลของ SFIs ในการดำเนินมาตรการดังกล่าว และยังมอบหมายให้กระทรวงการคลังประสานธนาคารแห่งประเทศไทย พิจารณาแนวทางให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ไม่ใช่ลูกหนี้ของ สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ประสบอุทกภัยให้เหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเร็วต่อไป

สำหรับมาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ แบ่งเป็น

1. โครงการช่วยเหลือ พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 12 เดือน โดยสถาบันการเงินเฉพาะกิจยกเว้นการคิดดอกเบี้ยในช่วงเวลาการพักชำระหนี้ (คิดดอกเบี้ยร้อยละ 0 ต่อปี) และให้ความช่วยเหลือรายละไม่เกิน 1,000,000 บาทต่อสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ทั้งนี้หากลูกหนี้มีสินเชื่อคงค้างมากกว่า 1,000,000 บาท สถาบันการเงินเฉพาะกิจพิจารณาช่วยเหลืออย่างน้อยรายละ 1,000,000 บาท เพื่อลดภาระการชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องไม่มีสถานะเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loans: NPLs) หรือจะต้องเป็นบัญชีที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และสามารถชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ทั้งนี้ลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติตามโครงการยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการภายในวันที่ 31 มกราคม 2569

2. โครงการสินเชื่อเพื่อเยียวยา สถาบันการเงินเฉพาะกิจสนับสนุนสินเชื่อเพิ่มเติมให้ลูกหนี้เดิมภายใต้วงเงินกู้เดิมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ วงเงินสินเชื่อต่อรายไม่เกิน 100,000 บาท โดยปีที่ 1 คิดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 0 ต่อปี ส่วนปีที่ 2 เป็นต้นไป เป็นไปตามที่สถาบันการเงินเฉพาะกิจกำหนด ทั้งนี้ลูกหนี้เดิมที่ไม่มีสถานะเป็น NPLS และมีภูมิลำเนาหรือสถานประกอบการหรืออาศัยอยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัย ตามประกาศกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และมีหลักฐานว่าได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการภายในวันที่ 31 มีนาคม 2569

3. โครงการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟู สถาบันการเงินเฉพาะกิจสนับสนุนสินเชื่อเพื่อให้ผู้ประสบอุทกภัยมีเงินทุนเพื่อต่อเติมหรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัย หรือซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย หรือฟื้นฟูการประกอบอาชีพ วงเงินสินเชื่อต่อราย ไม่เกิน 1,000,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ต่อปีในปีแรก ปีที่ 2 เป็นต้นไป เป็นไปตามที่ สถาบันการเงินเฉพาะกิจกำหนด สามารถยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2569 ทั้งนี้ สถาบันการเงินเฉพาะกิจอาจพิจารณาให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมทั้งในส่วนของการพักชำระหนี้ หรือการสนับสนุนสินเชื่อได้ตามความเหมาะสมภายใต้เงื่อนไขที่สถาบันการเงินเฉพาะกิจกำหนด

สำหรับธนาคารพาณิชย์และผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พิจารณาแนวทางที่เหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ลูกหนี้ของ ธนาคารพาณิชย์ และ Non-Bank ที่ประสบอุทกภัยได้รับความช่วยเหลือที่สอดคล้องกับแนวทางให้ความช่วยเหลือของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ โดย ธปท. อาจหารือกับกระทรวงการคลัง (สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ) เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของการปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (Financial Institutions Development Fund: FIDF) ต่อไป

อีกทั้งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณในการดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 110,000,000 บาท เพื่อจ่ายเงินค่าปลงศพผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ที่ได้มีคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 10/2568 ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เป็นค่าปลงศพรายละ 2 ล้านบาท ตามที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 โดยให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นหน่วยรับงบประมาณและจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยให้เบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป

นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้รับแจ้งจากจังหวัดสงขลาว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา มีความประสงค์ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2569 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จากกรณีภัยพิบัติเหตุอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา จำนวน 3 โครงการ งบประมาณรวมทั้งสิ้น 920,655,000 บาท เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่ประสบปัญหาอุทกภัย และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้มีหนังสือถึงสำนักงบประมาณ เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ เพื่อดำเนินโครงการฟื้นฟูเมืองหลังวิกฤตน้ำท่วมอำเภอหาดใหญ่และบริเวณโดยรอบ ภายในกรอบวงเงิน 530,000,000 บาท ตามความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาเพื่อดำเนินโครงการฟื้นฟูเมือง
หลังวิกฤตน้ำท่วมอำเภอหาดใหญ่และบริเวณโดยรอบ ภายในวงเงิน 530,000,000 บาท ตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอ ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสงขลาที่ประสบปัญหาอุทกภัยรุนแรง ได้รับความช่วยเหลือในการฟื้นฟูความเสียหาย และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยเร่งด่วน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง