World Ikat Textiles Symposium 2025 ขับเคลื่อนผ้ามัดหมี่ไทยสู่เวทีโลก

นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงาน World Ikat Textiles Symposium 2025 ที่โรงแรมอวานี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น โดยมีนายยุทธพร พิรุณสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาคเอกชน องค์การมหาชน เข้าร่วมงาน ภายใต้แนวคิดหัวข้อหลักของงาน TIES for TOMORROW : Weaving Heritage into Sustainable Futures ” ทอภูมิปัญญา ผูกสายใยแห่งความยั่งยืน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสมาคมการค้าส่งเสริมหัตถกรรมไทย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ และจังหวัดขอนแก่น

สภาหัตถกรรมโลกได้ประกาศให้จังหวัดขอนแก่น เป็นเมืองหัตถกรรมโลก แห่งผ้ามัดหมี่ World Craft City for lkat (Mudmee) เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2561 ซึ่งส่งผลให้จังหวัดขอนแก่น เป็นศูนย์กลางงานผ้าหัตถกรรมของอีสาน เกิดการเชื่อมโยงเครือข่าย และเป็นการขยายโอกาสทางการตลาดให้กับกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการผ้ามัดหมี่ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดขอนแก่น ให้สอดคล้องกับการเป็นเมืองแห่ง MICE CITY และสมาคมการค้าส่งเสริมหัตถกรรมไทยในฐานะหน่วยงานสมาชิกประจำประเทศไทยของสภาหัตถกรรมโลก โดยมีเป้าหมายหลักเพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาผ้ามัดหมี่ ส่งเสริมและเผยแพร่ชื่อเสียงผ้ามัดหมี่ให้เป็นที่รู้จักและนิยมใช้ พร้อมทั้งยกระดับผ้าทอมือ ผ้ามัดหมี่ นำมาซึ่งการสร้างรายได้และส่งเสริมอาชีพการผลิตผ้ามัดหมี่ให้กับชุมชนอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน อีกทั้งเป็นการเผยแพร่และส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ จากผู้เชี่ยวชาญด้านผ้ามัดหมี่จากประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายผ้ามัดหมี่ให้แข็งแกร่งในระดับโลก ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นในระหว่าง 3 – 5 ธันวาคม 2568 ที่จังหวัดขอนแก่น

โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้เยี่ยมชม การแสดงนิทรรศการนานาชาติ (Exhibition) การสาธิตเทคนิค (Workshop) การแสดงแฟชั่นโชว์ (Fashion Show) การจำหน่ายสินค้า (Craft Market) นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมภายในงาน การเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการด้านผ้า และผู้เกี่ยวข้องด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอเข้ามาร่วมงานประมาณ 200-300 คน เพื่อเพิ่มโอกาสเข้ามาทำงานร่วมกัน ติดต่อซื้อขาย คาดหวังว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น กับเศรษฐกิจจังหวัดขอนแก่นในฐานะขอนแก่นไมซ์ซิตี้และเกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจภูมิภาค คาดว่าจะเกิดเม็ดเงินหมุนเวียนจากการเจรจาธุรกิจในครั้งแรกนี้ ต่อระบบเศรษฐกิจประมาณ 200-300 ล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง