นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สถานการณ์โรคไม่ติดต่อ (NCDs) ของคนไทยในรอบ 20 ปี ตั้งแต่ปี 2547-2568 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ข้อมูลจากการสำรวจสุขภาพคนไทยด้วยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 7 (ปี 2567-2568) พบคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ป่วยเบาหวาน ร้อยละ 10.6 หรือ 6.1 ล้านคน ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละ 29.5 หรือ 17.5 ล้านคน และมีภาวะนำหนักเกินและโรคอ้วน ร้อยละ 45 หรือ 27.4 ล้านคน ส่งผลให้ไทยไม่บรรลุเป้าหมายขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่กำหนดให้ภายในปี 2568 ไทยต้องลดโรคเบาหวานไม่เกิน ร้อยละ 7.3 ความดันโลหิตไม่เกิน ร้อยละ 17 และโรคอ้วนไม่เกิน 36.2 ของประชากรทั้งประเทศ
สสส. จึงมุ่งจุดประกายและสร้างกระแสกิจกรรมทางกาย เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้มีสุขภาพดี ลดความเสี่ยงเกิดโรค NCDS โดยได้ริเริ่มและผลักดันให้คนไทยลุกขึ้นมาเริ่มวิ่งอย่างถูกวิธี ผ่านโครงการ Thai Health Day Run 2026 ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 13 แล้ว และปีนี้ สสส. ได้ร่วมกับ สมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่ง จัดงาน Thai Health Day Run 2026 วิ่งสู่วิถีชีวิตใหม่ ครั้งที่ 13 ภายใต้แนวคิด “แค่ออกวิ่งอวัยวะก็ออกวิ่งด้วย” ในวันที่ 25 มกราคม .2569 ที่ สะพานพระราม 8 เปิดรับสมัครแล้วจนถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ด้วยค่าสมัคร 300 บาทในทุกระยะ
ขอเชิญชวนประชาชนทุกคนออกวิ่งไปด้วยกัน เพราะไม่ใช่แค่งานวิ่ง แต่จะเป็นจุดเริ่มต้นสร้างวิถีชีวิตใหม่ที่ทำให้คนไทยแข็งแรงขึ้นในทุกมิติ เพราะเพียงเริ่มวิ่งจะช่วยให้อวัยวะภายในทำงานดีขึ้นทั้งระบบ เช่น หลอดเลือด หัวใจและตับอ่อน เหมือนได้ออกกำลังกายไปพร้อมกัน ช่วยให้หลอดเลือดกลับมามีความยืดหยุ่น ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น หัวใจทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และลดภาระของตับอ่อน ทำให้ร่างกาย
ควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีขึ้น จึงลดโอกาสเกิดโรคเบาหวาน ความดัน และโรค NCDs ต่างๆ การออกมาวิ่งหรือออกกำลังกาย ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มที่สุด เพราะการออกกำลังกายเพียง 1 ชม. จะช่วยให้ชีวิตยืนยาวขึ้นถึง 7 ปี
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลทางการแพทย์ที่ชี้ ว่าการวิ่ง จะช่วยให้ไม่เตี้ย เพราะกระดูกจะแข็งแรงไม่ทรุดตัวเมื่ออายุมากขึ้น วิ่งแล้วยังฉลาด เพราะเมื่อเส้นเลือดโล่ง ขยะในสมองจะถูกขจัดออก ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น
ด้านนายประสาร จิรชัยสกุล ประธานสมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่ง เพื่อสุขภาพไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมีคนอยู่ในวงการวิ่ง 15 ล้านคน สำหรับการจัดงานวิ่งครั้งนี้ตั้งเป้าหมายจะมีคนเข้าร่วม 3,000 คน โดยเฉพาะนักวิ่งหน้าใหม่ เยาวชนและครอบครัว








