กบร. เห็นชอบปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออกเฉพาะเที่ยวบินระหว่างประเทศของ ทอท. พร้อมคงอัตราเดิมเส้นทางภายในประเทศ และเดินหน้ามาตรการยกระดับสนามบินทั่วประเทศ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการการบินพลเรือน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ครั้งที่ 3/2568 เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 โดยที่ประชุมมีมติสำคัญหลายประเด็นเพื่อยกระดับความปลอดภัย มาตรฐานบริการ และการกำกับดูแลอุตสาหกรรมการบินของประเทศอย่างรอบด้าน

หนึ่งในมติสำคัญ คือ การเห็นชอบในหลักการให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ปรับอัตราค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charge: PSC) สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ จาก 730 บาท เป็น 1,120 บาท ขณะที่เที่ยวบินภายในประเทศยังคงอัตราเดิมที่ 130 บาท โดยกำหนดให้ ทอท. จัดส่งเอกสารเพิ่มเติมให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ตรวจสอบ และจัดรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ก่อนรายงานผลเพื่อเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพิจารณาอนุมัติ รวมทั้งต้องแจ้งประชาชนล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 4 เดือนก่อนเริ่มจัดเก็บอัตราใหม่

การปรับอัตรา PSC สอดคล้องกับแนวปฏิบัติของหลายประเทศ เพื่อรองรับต้นทุนการพัฒนาสนามบินให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ความปลอดภัย และการบริหารจัดการ ซึ่งจะช่วยลดความแออัด รองรับปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และผลักดันบทบาทของไทยในฐานะศูนย์กลางการบินของภูมิภาค

สำหรับข้อเสนอของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ในการปรับค่าบริการผู้โดยสารขาออกที่ท่าอากาศยานตรัง ที่ประชุมมีมติให้คำแนะนำต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยเห็นชอบให้ปรับค่าบริการเที่ยวบินระหว่างประเทศเป็นไม่เกิน 425 บาทต่อครั้ง จากเดิม 400 บาท และเที่ยวบินภายในประเทศเป็นไม่เกิน 75 บาทต่อครั้ง จากเดิม 50 บาท ทั้งนี้จะเริ่มจัดเก็บได้เมื่อท่าอากาศยานตรังติดตั้งระบบ CUPPS และอุปกรณ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 รวมถึงเปิดให้บริการระบบ CUTE, CUSS และ CUBD ครบถ้วน และต้องผ่านการตรวจสอบความพร้อมโดย กพท. พร้อมประกาศให้ผู้โดยสารทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 4 เดือน

ปัจจุบัน มีท่าอากาศยาน 6 แห่งที่จัดเก็บค่าบริการในอัตราตามเกณฑ์ ได้แก่ สนามบินกระบี่ สุราษฎร์ธานี อุบลราชธานี ขอนแก่น นครศรีธรรมราช และพิษณุโลก

ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบการปรับอัตราค่าธรรมเนียมการเข้าหรือออกนอกประเทศ จากเดิม 15 บาทต่อผู้โดยสารต่อเที่ยว เป็น 25 บาทต่อเที่ยว เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนและภารกิจด้านการกำกับดูแล

นอกจากนี้ ยังเห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายและข้อบังคับชุดใหม่ รวมถึงการปรับหลักเกณฑ์ด้านอากาศยาน โดยยกเลิกข้อจำกัดอายุอากาศยานทุกประเภทที่ผู้ประกอบการสามารถจัดหาเพื่อใช้ในกิจการการบินพลเรือน โดยให้ กพท. ชี้แจงสาธารณชนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวดตามหลักสากล ก่อนเสนอร่างข้อบังคับให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมลงนาม

ในด้านใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือน ที่ประชุมเห็นชอบให้บริษัท ไทยสกาย บัลลูนนิ่ง จำกัด ได้รับใบอนุญาตการบินพลเรือนประเภทการทำงานทางอากาศ สำหรับการบินบัลลูนชมภูมิประเทศและโฆษณา และเห็นชอบให้บริษัท สยามแลนด์ ฟลายอิ้ง จำกัด ต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนประเภทการขนส่งทางอากาศเพื่อการพาณิชย์แบบไม่ประจำ อายุ 5 ปี ภายใต้เงื่อนไขตามเกณฑ์ที่กำหนด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง