กรมทางหลวง (ทล.) กระทรวงคมนาคม โดยสำนักงานทางหลวงที่ 13 และแขวงทางหลวงสมุทรสาคร ดำเนินปฏิบัติการฉุกเฉินเมื่อเกิดเหตุน้ำทะเลหนุนสูงไหลเข้าท่วมผิวการจราจรบนทางหลวงหมายเลข 35 หรือถนนพระราม 2 ช่วงกิโลเมตรที่ 38+100 – 39+100 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ระดับน้ำสูงประมาณ 20 – 50 เซนติเมตร ส่งผลให้รถขนาดเล็กไม่สามารถผ่านเส้นทางได้
นายศุภโชค มีอำพล ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 13 ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ พร้อมบัญชาการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน เบื้องต้นพบว่าสาเหตุมาจากน้ำทะเลหนุนสูงไหลทะลักเข้ามาจากคลองขุดบ้านบ่อ บริเวณ กม.39+300 ก่อนจะเอ่อเข้าท่วมช่องทางหลักของถนน
ทล. จึงดำเนินมาตรการฉุกเฉินหลายด้าน ได้แก่ วางกระสอบทรายเป็นแนวคันกั้นบริเวณท่อระบายน้ำในร่องแบ่ง ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้วจำนวน 4 เครื่อง รวมถึงใช้เครื่องสูบน้ำพญานาค เพื่อเร่งระบายน้ำกลับลงคลองขุดบ้านบ่อ พร้อมสูบพร่องน้ำสะสมใต้สะพาน
ด้านการจราจร ได้จัดเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่ร่วมกับตำรวจทางหลวง และเตรียมเปิดช่องทางพิเศษ (Reversible Lane) ระยะทาง 3.4 กิโลเมตร ระหว่าง กม.40+800 – 37+400 โดยใช้ช่องทางหลักขาออก 1 ช่องทางย้อนทิศทางเพื่อเร่งระบายรถสะสมฝั่งขาเข้า นอกจากนี้ ได้ประสานศูนย์ HTOC ขึ้นป้าย VMS แจ้งเตือนผู้ใช้ทางจากเพชรบุรีและราชบุรีให้พิจารณาหลีกเลี่ยงไปใช้ถนนเพชรเกษม (ทล.4) แทน
ขณะเดียวกัน แขวงทางหลวงสมุทรสาครเตรียมแผนรองรับเพิ่มเติมหากระดับน้ำทะเลยังหนุนสูงต่อเนื่องในสัปดาห์ถัดไปซึ่งเป็นวันทำงาน โดยเตรียมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่อำนวยการจราจร เติมเครื่องสูบน้ำ และเสริมกระสอบทราย เพื่อบรรเทาผลกระทบจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ
ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ ปฏิบัติตามป้ายเตือน และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ หากต้องการข้อมูลหรือแจ้งเหตุฉุกเฉินสามารถติดต่อสายด่วนกรมทางหลวง โทร. 1586 ตลอด 24 ชั่วโมง
