นางรวีวรรณ ภูริเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าปฏิบัติหน้าที่วันแรกที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ระบุว่า งานเร่งด่วนที่สุดคือการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้กำกับดูแลมาตรการแก้ไขทั้งในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ส่วนในเขตเมือง กรมควบคุมมลพิษร่วมกับกรุงเทพมหานครและภาคเอกชน ออกมาตรการลดฝุ่นผ่านการมอบส่วนลดค่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไส้กรอง และการบำรุงรักษารถยนต์เก่า โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล เพื่อช่วยลดมลพิษจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์
นางรวีวรรณยังเปิดเผยว่า ได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเร่งรัดการจัดการพื้นที่ป่าไม้ถาวร ซึ่งมีอยู่ประมาณ 3 ล้านไร่ แต่ยังไม่เกิดการดำเนินงานใด ๆ โดยผลสำรวจพบว่าบางส่วนมีประชาชนเข้าใช้ประโยชน์แล้ว ขณะที่พื้นที่สีเขียวยังคงอยู่ประมาณ 1 ล้านไร่ แนวทางต่อจากนี้คือการผลักดันให้เกิดการอนุญาตให้ประชาชนอยู่อาศัยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อรองรับการตรวจสอบแหล่งที่ไม้อย่างโปร่งใสในการค้าระหว่างประเทศ ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอเสนอคณะรัฐมนตรี ก่อนกรมป่าไม้จะเดินหน้าดำเนินการแบ่งพื้นที่ทำกินกับพื้นที่ป่าที่ต้องอนุรักษ์ต่อไป
ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า จะเร่งแก้ปัญหาขยะ การป้องกันไฟป่า–หมอกควัน รวมถึงการเตรียมพร้อมรับช่วงหน้าไฟป่าระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2569 ตลอดจนผลักดันการเพิ่มพื้นที่สีเขียว และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่เป้าหมาย Net Zero 2050 พร้อมสนับสนุนกำลังพลในสังกัดสำหรับการช่วยเหลือทุกสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งอุทกภัยและประเด็นพื้นที่ชายแดน
สำหรับปัญหาที่ดินทับซ้อนในเขตป่า นางรวีวรรณย้ำว่า ต้องยึดข้อเท็จจริงและความเป็นธรรมแก่ประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่อาศัยมาก่อนการประกาศเขตที่ดินของรัฐ พร้อมทั้งใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เช่น ภาพถ่ายอากาศเก่า ภาพถ่ายดาวเทียม และแผนที่ One Map ซึ่งจัดทำแล้วครบทั้ง 77 จังหวัด มาประกอบการพิจารณาแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
รัฐบาลเน้นการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า ทำให้ทุกหน่วยงานต้องนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ภาพถ่ายดาวเทียมและเทคโนโลยีสำรวจอื่น ๆ พร้อมกล่าวว่าการกลับมารับตำแหน่งครั้งนี้เปรียบเสมือนการกลับบ้าน หลังทำงานในกระทรวงทรัพย์ฯ มานานกว่า 25 ปี ก่อนถูกมอบหมายงานด้านแผนที่ One Map ที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติอีกเกือบ 5 ปี ซึ่งยังคงเชื่อมโยงกับภารกิจของกระทรวงมาโดยตลอด








