สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงแรม โอเชี่ยนมาริน่า พัทยา อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทรงลงทะเบียน และชั่งน้ำหนักนักกีฬาเรือใบทีมชาติไทย ประเภทเรือคีลโบท SSL 47 พร้อมทรงฟังการถวายบรรยายข้อมูลการแข่งขันเรือใบและทรงฝึกซ้อมเรือใบ รอบทดสอบสนาม ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ร่วมกับนักกีฬาจาก 4 ชาติ ได้แก่ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซียและเมียนมา โดยมีพลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย นายกสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และประชาชน เฝ้าฯรับเสด็จ
จากนั้นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯโดยเรือใบ SSL 47 หมายเลข 6 ไปยังบริเวณพื้นที่ฝึกซ้อมในทะเล ทรงฝึกซ้อมรอบทดสอบสนามโดยทรงทำหน้าที่เป็นเนวิเกเตอร์ของเรือ ทรงดูทิศทางลมในทะเล อันเป็นการเตรียมความพร้อมของนักกีฬาให้มีความคุ้นเคยกับสนาม ก่อนการแข่งขันจริง ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 15-18 ธันวาคมนี้
ด้านการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในกีฬาแบดมินตัน ที่ยิมเนเซียม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ในรอบชิงชนะเลิศคู่ผสม เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับศุภิสรา เพียวสามพราน คู่มือ 1 ของรายการ มือ 4 ของโลก เจอกับรุ่นน้องทีมชาติไทย รุษฐนภัค อูปทอง กับเฌอย์ณิชา สุดใจประภารัตน์ ซึ่งผลปรากฏว่า ทั้งสองคู่สู้กันได้อย่างสูสี แต่สุดท้าย เป็นคู่ของรุษฐนภัค กับเฌอย์ณิชา ที่เฉือนเอาชนะไปได้ 2-0 เกม 22-20 และ 21-19 คว้าเหรียญทองไปครองได้สำเร็จ
หลังจบการแข่งขัน รุษฐนภัค กับเฌอย์ณิชา กล่าวว่า ไม่ได้คิดว่าจะคว้าแชมป์ได้ โดยในการแข่งขันพยายามเล่นลูกง่ายๆ เพื่อทำแต้มโดยไม่มีความกดดัน ส่วนปีหน้าก็ตั้งเป้าไปแบดมินตันเวิลด์ทัวร์ ไฟนัลส์ และพยายามขึ้นไปอยู่ในอันดับทอป 8 ให้ได้
ด้านหญิงเดี่ยว “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มือ 8 ของโลก ตบชนะ “เมซ้าย” ศุภนิดา เกตุทอง มือ 12 ของโลก 2-0 เกม 21-19 และ 21- 7 เป็นการคว้าเหรียญทองอำลากีฬาซีเกมส์
จักรยานประเภทถนน รายการไครทีเรียมหญิง ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จังหวัดนครนายก จุฑาธิป มณีพันธุ์ ซึ่งเป็นแชมป์เก่า 2 สมัย สปรินท์ในรอบสุดท้ายเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกคว้าเหรียญทองได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นเหรียญทองที่ 5 ของทีมจักรยานไทย ส่วนเหรียญเงินเป็นของ นูร์ อิสยา มูฮาหมัด ซูเบียร์ นักปั่นทีมชาติมาเลเซีย ขณะที่ เหงียน ทิ ทัต คู่ปรับเก่าของจุฑาธิปได้เหรียญทองแดง
ด้านรายการไทม์ไทรอัลทีมชาย นักปั่นทีมชาติไทย ประกอบด้วย พีระพล ชาวเชียงขวาง, สราวุฒิ สิริรณชัย, ธนาคาร ไชยยาสมบัติ และ นพชัย กล้าหาญ สู้อย่างเต็มที่ทำเวลาได้ 1 ชั่วโมง 14.31 นาที ได้เหรียญเงิน ส่วนเหรียญทองเป็นของทีมชาติอินโดนีเซีย เวลา 1 ชั่วโมง 13.27 นาที
ขี่ม้า ประเภทศิลปะการบังคับม้าประเภททีม ที่สนามไทยโปโล คลับ พัทยา ทีมไทยนำทัพโดยนักขี่ม้ามือเก๋า เฉลิมฉาน ยศวิริยะพาณิชย์ พร้อมด้วยอาริย์ณัฏฐา ชวตานนท์ ที่พึ่งคว้าเหรียญทองทีมอีเว้นตติ้งไปก่อนหน้านี้ พร้อมด้วยน้องใหม่ นีร พุทธิสมบัติ และปวริศา ทองประดับ ลงชิงชัย ปรากฏว่าทัพนักกีฬาทั้ง 4 คนต่างโชว์บังคับม้าได้อย่างยอดเยี่ยม ทำได้ถึง 207.353 คะแนน คว้าเหรียญทองมาครอง และเป็นการกลับมาคว้าเหรียญทองทีมศิลปะการบังคับม้าในการแข่งขันซีเกมส์รอบ 30 ปี ส่วนเหรียญเงินตกเป็นของ อินโดนีเซีย 207.206 คะแนน
กอล์ฟ ที่สนามสยามคันทรีคลับ โรลลิ่งฮิลส์ พาร์ 72 จังหวัดชลบุรี ในประเภททีมชาย ทีมไทยประกอบด้วย พงศภัค เหล่าภักดี, ธนวินท์ ลี, วรุตม์ บุญรอด และปรินทร์ สารสมุทร จบด้วยสกอร์รวม 33 อันเดอร์พาร์ 831 คว้าเหรียญทองได้สำเร็จ โดยทิ้งห่าง อินโดนีเซีย 20 สโตรก
ส่วนประเภท บุคคลชาย พงศภัค เหล่าภักดี ทำสกอร์รวม 21 อันเดอร์พาร์ 267 คว้าเหรียญทอง ทิ้งอันดับสอง มินห์ เหวียน อันห์ จากเวียดนาม 10 อันเดอร์พาร์ และเหรียญทองแดงเป็นของ ปรินทร์ สารสมุทร 8 อันเดอร์พาร์
ด้านทีมหญิง ทีมไทยประกอบด้วย ปริม ปราชญ์นคร, พิมพ์พิศา รับรอง และ กฤตชัญญา เก้าพัฒนสกุล จบด้วย 18 อันเดอร์พาร์ 558 คว้าเหรียญทอง โดยทิ้งห่าง สิงคโปร์ 35 สโตรก
ส่วนประเภท บุคคลหญิง ปริม ปราชญ์นคร สำสกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 279 แซงคว้าเหรียญทอง เหรียญเงินตกเป็นของกฤตชัญญา เก้าพัฒนสกุล 3 อันเดอร์พาร์ ส่วนเหรียญทองแดงตามกติกาซีเกมส์ไม่ให้ชาติเดียวเหมาโพเดียม เป็นของอัน เล ชุค จากเวียดนาม 5 โอเวอร์พาร์
สรุปผลงานนักกอล์ฟไทยในซีเกมส์ครั้งนี้ คว้าได้ทั้งหมด 4 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง นับเป็นอีกครั้งตั้งแต่ซีเกมส์ 2015 ที่สิงคโปร์เป็นเจ้าภาพ ที่ทีมไทยสามารถกวาดได้ทุกเหรียญทอง
วอลเลย์บอลหญิง ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก ในรอบรองชนะเลิศ ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ตบเอาชนะ อินโดนีเซีย ไปแบบสบายๆ 3-0 เซต 25-15, 25-21 และ 25-15 ส่งผลให้ทีมนักตบสาวไทย ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ไปพบกับเวียดนาม แข่งขันในวันนี้ เวลา 17.00 น. เดินหน้าสู่เป้าหมายคว้าเหรียญทองซีเกมส์ เป็นสมัยที่ 17 และป้องกันแชมป์สมัยที่ 15 ติดต่อกัน ขณะที่ อินโดนีเซีย จะชิงเหรียญทองแดงกับ ฟิลิปปินส์ เวลา 15.00 น.
เบสบอล 5 คน ซึ่งเป็นกีฬาใหม่ที่บรรจุแข่งขันในมหกรรมซีเกมส์ครั้งแรก โดยใช้กฎกติกาเหมือนกับกีฬาเบสบอลทั่วไป แต่มีขนาดสนามเล็กกว่าและใช้ผู้เล่นน้อยกว่า แข่งแบบ 2 ใน 3 เซต แต่ละเซตเล่น 5 อินนิง ผลปรากฏว่าทีมชาติไทยแม้ว่าจะต้องลุ้นเหนื่อย แต่ยังเอาชนะ อินโดนีเซีย ไปได้ 2-0 เซต 9-8 และ 4-2 คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ
ยกน้ำหนัก ที่โรงยิมเนเซียม โรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี รุ่น 65 กิโลกรัมชาย ปัฐษพงษ์ ทองสุก ยกท่าสแนตช์ได้ 134 กิโลกรัม ก่อนที่ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ยกได้ 173 กิโลกรัม ขยับน้ำหนักรวมไปอยู่ที่ 307 กิโลกรัม แซงคว้าเหรียญทอง ไปครอง นับเป็นเหรียญทองที่ 3 ของทีมจองพลังไทย ส่วนเหรียญเงิน เป็นของมูฮัมหมัด อาซ์นิล บิดิน จากมาเลเซีย 306 กิโลกรัม และเหรียญทองแดง เอโค ยูลิ อิราวาน 304 กิโลกรัม
รุ่น 58 กิโลกรัม หญิง สุรัสวดี ยอดสาร ยกท่าสแนทช์ได้ 96 กิโลกรัม ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ยกได้ 128 กิโลกรัม น้ำหนักรวม 224 กิโลกรัม หยิบเหรียญทองที่ 4 ให้ทีมจอมพลังไทย ส่วนเหรียญเงินเป็นของนาตาสยา เบเตยอบ จากอินโดนีเซีย 218 กิโลกรัม และเหรียญทองแดง ธิ ธัม ควง จากเวียดนาม 215 กิโลกรัม
รุ่น 71 กิโลกรัม ชาย วีรพล วิชุมา เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ “ปารีส 2024” ขึ้นเวที ยกท่าสแนทช์ได้ 152 กิโลกรัม/ ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 195 กิโลกรัมทำลายสถิติโลกของตัวเองที่เคยทำไว้ 194 กิโลกรัม ทำให้สถิติรวมอยู่ที่ 347 กิโลกรัม คว้าเหรียญทองที่ 5 ให้ทีมยกน้ำหนักไทย
ตะกร้อ ที่โรงยิมเนเซียม 4,000 ที่นั่ง ศูนย์กีฬาเทศบาลนครนครปฐม ในรอบชิงชนะเลิศ ทีมชุดหญิง ทีมชาติไทย เจอกับทีมชาติเวียดนาม เริ่มจากทีมชุดเอ นิภาภรณ์ สลุบพล เป็นตัวเสิร์ฟ, มัสยา ดวงศรี หน้าซ้ายชง และ วิไลวรรณ โคตรพรหม เป็นหน้าขวาทำ เอาชนะไปได้ทั้งสองเซ็ต 15-13 และ 15-12 จากนั้นทีมชุดบี ส่ง 3 ประสาน สมฤดี ปรือปรัก ตัวทำ, วิภาดา จิตพรวน ตัวเสริฟ และ ศิรินันท์ เขียวปัก ตัวชง เอาชนะไปได้อีก 2-0 เซต 15-13, 15-8 ส่งผลให้ทีมชาติไทยชนะไป 2-0 ทีม คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ พร้อมกับฉลองวันคล้ายวันเกิดครบ 48 ปี ให้กับ “โจ้หลังเท้า” พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ผันสืบ ตำนานนักกีฬาตะกร้อ ที่เป็นผู้จัดการทีมอีกด้วย
ด้านทีมชุดชาย ทีมตะกร้อไทย ดีกรีแชมป์ซีเกมส์ 18 สมัย แพ้ให้กับทีมมาเลเซีย 1-2 ทีม คว้าได้เพียงเหรียญเงิน นับเป็นครั้งแรกในรอบ 34 ปี ที่พลาดเหรียญทองซีเกมส์
เจ็ตสกี ที่หาดจอมเทียนพัทยา ทัพนักกีฬาเจ็ตสกีไทยคว้า 5 เหรียญทอง จากธนวิชญ์ โมลี รุ่นเรือยืน 1,500 ซีซี ห้ามแต่งเครื่องยนต์, ศศินา ผิวงาม รุ่นเรือนั่ง 1,100 ซีซี ห้ามแต่งเครื่องยนต์, ธนวิชญ์ โมลี รุ่นเรือยืนแต่งเครื่องยนต์จีพี, สุภัค เสร็จธุระ รุ่นเรือนั่งจำกัดการแต่งเครื่องยนต์ ปิดท้ายเหรียญทองที่ เพิ่มพล ธีรพัฒน์พาณิชย์ ในรุ่นเรือนั่งห้ามแต่งเครื่องยนต์
สรุปเหรียญรางวัลซีเกมส์ ทัพนักกีฬาไทย คว้าไปแล้วถึง 128 เหรียญทอง 81 เหรียญเงิน 46 เหรียญทองแดง ตามมาด้วยอันดับ 2 อินโดนีเซีย 39 เหรียญทอง และอันดับ 3 เวียดนาม 34 เหรียญทอง








