กรมทรัพย์สินทางปัญญาเดินหน้าปฏิบัติการปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 11 เดือนของปี 2568 พบว่า จำนวนคดีลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ปริมาณของกลางและมูลค่าความเสียหายเพิ่มสูงขึ้น สะท้อนถึงการทำงานเชิงรุกที่มุ่งสกัดกั้นสินค้าละเมิดตั้งแต่แหล่งต้นน้ำ เพื่อปกป้องเจ้าของสิทธิและสร้างความเชื่อมั่นทางการค้า
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้บูรณาการความร่วมมือกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ และภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ ลงพื้นที่ตรวจสอบในท้องตลาด ห้างสรรพสินค้า และย่านการค้ายอดนิยมอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือน
ผลการดำเนินงานในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน 2568 สถิติการดำเนินคดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมสอบสวนคดีพิเศษ รวมทั้งสิ้น 1,132 คดี ลดลงร้อยละ 16.15 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่สามารถยึดของกลางได้จำนวน 3,344,841 ชิ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.35 และมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 63.89
อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาระบุว่า ของกลางในคดีที่ถึงที่สุดแล้วจะถูกทำลายทั้งหมด เพื่อปิดวงจรสินค้าละเมิดไม่ให้กลับมาหมุนเวียนในท้องตลาดอีก พร้อมย้ำว่าการปราบปรามจะเน้นความเข้มข้นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในทุกมิติ
ขณะเดียวกัน กรมทรัพย์สินทางปัญญายังให้ความสำคัญกับการปราบปรามสินค้าละเมิดในตลาดออนไลน์ โดยนำมาตรการ Notice and Takedown มาใช้ร่วมกับเจ้าของสิทธิและแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำ สามารถระงับการจำหน่ายสินค้าละเมิดบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซได้อย่างทันท่วงที รวมถึงการรณรงค์ “ไม่ซื้อ ไม่ใช้ และไม่สนับสนุนสินค้าละเมิด” เพื่อคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์และการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์อย่างยั่งยืน








