ไทยพร้อมบูรณะโบราณสถาน จากเหตุสู้รบ ไทย – กัมพูชา ได้ ขอรอไฟเขียวอนุมัติให้เข้าสำรวจ ยัน ส่งถ้อยแถลงทุกช่องทาง ชี้ กัมพูชาใช้ปราสาทเป็นฐานทหาร

น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึงกรณีโบราณสถานบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชาได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะระหว่างกำลังทหารของทั้งสองฝ่ายว่า ประเทศไทยมีความพร้อมในการบูรณะซ่อมแซมโบราณสถานที่ได้รับผลกระทบ แต่ขณะนี้ยังต้องรอการอนุญาตจากฝ่ายความมั่นคงเพื่อให้กรมศิลปากรสามารถเข้าพื้นที่สำรวจความเสียหายได้อย่างปลอดภัย

การดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามหลักการป้องกันตัวตามหลักสากล และตามหลักความมั่นคงของประเทศ โดยไทยไม่ได้เป็นฝ่ายโจมตีก่อน แต่มีความจำเป็นต้องใช้สิทธิในการปกป้องตนเองและอธิปไตยของชาติ

สำหรับสาเหตุความเสียหายของโบราณสถานนั้น เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าเกิดขึ้นก่อนหรือหลังการปะทะ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ไทยเพิ่งเข้าควบคุมได้ไม่นาน อย่างไรก็ตาม เมื่อโบราณสถานอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทยแล้ว รัฐบาลมีหน้าที่ต้องวางแผนงบประมาณและดำเนินการบูรณะซ่อมแซมให้กลับสู่สภาพโบราณสถานตามหลักวิชาการ พร้อมย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้ใช้โบราณสถานเป็นบังเกอร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหารแต่อย่างใด

ขณะนี้กรมศิลปากรยังไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ แต่ในด้านเทคนิคการซ่อมแซมไม่ได้มีความซับซ้อน และกรมศิลปากรมีศักยภาพเพียงพอในการดำเนินการ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่นานหลังจากได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่

ส่วนประเด็นความปลอดภัย เนื่องจากบริเวณโดยรอบโบราณสถานยังมีทุ่นระเบิดหลงเหลืออยู่ จะต้องรอให้ฝ่ายความมั่นคงยืนยันความปลอดภัย และดำเนินการเคลียร์พื้นที่อย่างเรียบร้อยก่อน จึงจะสามารถเข้าทำการสำรวจและบูรณะได้

สำหรับแนวทางการบูรณะ จะใช้เทคนิคสมัยใหม่โดยคงรูปแบบดั้งเดิมของโบราณสถานไว้ ซึ่งได้มีการศึกษาเตรียมการล่วงหน้าแล้ว แต่ยืนยันว่าต้องมีการสำรวจพื้นที่อย่างละเอียดก่อนเริ่มดำเนินการทุกขั้นตอน

กรณีที่ฝ่ายกัมพูชานำตัวปราสาทไปใช้เป็นฐานปฏิบัติการทางทหาร และกล่าวหาไทยว่าทำลายโบราณสถานนั้น น.ส.ซาบีดาระบุว่า การดำเนินการใด ๆ ของประเทศไทยต้องยึดหลักสากลและข้อเท็จจริงเป็นสำคัญ พร้อมชี้ว่าควรพิจารณาถึงต้นเหตุของความเสียหาย ซึ่งเกิดจากการใช้โบราณสถานเพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหาร จนทำให้ไทยจำเป็นต้องป้องกันตัวและปกป้องอธิปไตยของประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง