กรมประมงให้การต้อนรับคณะผู้แทนจีน กระชับความร่วมมือประมงลุ่มน้ำโขง–แยงซี มุ่งสู่การจัดการทรัพยากรยั่งยืน 

นางฐิติพร หลาวประเสริฐ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยถึงการให้การต้อนรับ นายอู๋ เจี้ยนผิง (WU Jianping) ผู้อำนวยการกองกำกับดูแลการบังคับใช้กฎหมาย และคณะผู้แทนจากสำนักงานกำกับดูแลและบริหารจัดการประมงลุ่มน้ำแยงซี สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงเกษตรและกิจการชนบทของสาธารณรัฐประชาชนจีน (Ministry of Agriculture and Rural Affairs) ที่มีหน้าที่หลักเกี่ยวกับการบริหารจัดการและกำกับดูแลกิจกรรมประมงและทรัพยากรทางน้ำในลุ่มน้ำแยงซี รวมทั้งด้านการบังคับใช้กฎหมายเพื่อการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำและพืชน้ำ ในการหารือถึงความร่วมมือด้านประมง แลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการประมง โดยกรมประมงได้มีการนำเสนอแผนพัฒนาด้านประมงในพื้นที่แม่น้ำโขง พ.ศ.2566 – 2570 ซึ่งมุ่งเน้นการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างมีส่วนร่วม ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ และส่งเสริมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อความยั่งยืนและความมั่นคงทางอาหารของชุมชนริมฝั่งโขง โดยฝ่ายจีน ได้นำเสนอมาตรการห้ามการทำประมงในแม่น้ำแยงซี เป็นระยะเวลา 10 ปี โดยมุ่งเน้นการฟื้นฟูทรัพยากรและความหลากหลายทางชีวภาพและคืนความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำในลุ่มน้ำแยงซีอย่างเป็นรูปธรรมและเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตสัตว์น้ำที่ลดน้อยลง ซึ่งโครงการได้ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว จึงได้มีการติดตามสภาวะทรัพยากรสัตว์น้ำในลุ่มน้ำแยงซีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อประเมินผลการดำเนินมาตรการดังกล่าว ทั้งนี้ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องยังต้องสนับสนุนการดำรงชีพของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวด้วย 

นอกจากนี้ ทางกรมประมง ยังได้นำคณะผู้แทนเยี่ยมชมสถานที่สำคัญภายในกรมประมง อาทิ ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังการทำประมงของกรมประมง (FISHERIES MONITORING CENTER : FMC) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการตรวจสอบและควบคุมเรือประมงผ่านระบบเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ โดยทางศูนย์ FMC ได้มีการนำเสนอกลไกการดำเนินงานของศูนย์ เพื่อเป็นการป้องกันการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU Fishing) ซึ่งใช้ระบบติดตามเรือประมง (Vessel Monitoring System : VMS) ในการตรวจสอบตำแหน่งและพฤติกรรมการทำการประมงตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างยั่งยืนและมีธรรมาภิบาล ทั้งนี้กรมประมง หวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยบูรณาการองค์ความรู้และนวัตกรรมเพื่อการบริหารจัดการลุ่มน้ำข้ามพรมแดนให้เกิดความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมและทั้งสองประเทศจะร่วมกันยกระดับขีดความสามารถของบุคลากรประมงและสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำร่วมกันอย่างบูรณาการและยั่งยืน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง