นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อติดตามความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่
การลงพื้นที่ครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักพิงชั่วคราว และโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว โดยจังหวัดสระแก้วได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การสู้รบตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2568 โดยเฉพาะใน 4 อำเภอชายแดน ได้แก่ อำเภอตาพระยา อำเภอโคกสูง อำเภออรัญประเทศ และอำเภอคลองหาด
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ได้เปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อบริหารจัดการและควบคุมสถานการณ์อย่างเป็นระบบ มีการอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงรวม 46 แห่ง มีผู้อพยพทั้งสิ้น 19,613 คน ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มเปราะบาง 6,399 คน ประกอบด้วยผู้สูงอายุร้อยละ 19.66 เด็กเล็กร้อยละ 11 รวมถึงผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยฟอกไต และผู้ป่วยจิตเวชกว่า 400 ราย
ด้านการรักษาพยาบาล จังหวัดได้ปรับแผนความพร้อม โดยปิดโรงพยาบาลและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่เสี่ยงรวม 53 แห่ง พร้อมเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในไปยังพื้นที่ปลอดภัย เปิดโรงพยาบาลสนามขนาด 100 เตียง รองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง และนำระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) มาใช้ในโรงพยาบาลหลัก เพื่อลดข้อจำกัดในการเดินทางของประชาชน นอกจากนี้ ยังมีการสำรองโลหิตไว้กว่า 1,040 ยูนิต เพียงพอและพร้อมใช้งานทันที
สถานการณ์ด้านสุขภาพในศูนย์พักพิง พบว่าโรคที่พบบ่อยที่สุดคือกลุ่มโรคเรื้อรัง ร้อยละ 59.88 รองลงมาคือโรคระบบทางเดินหายใจ ร้อยละ 26.33 และโรคระบบทางเดินอาหาร ร้อยละ 13.71 โดยทีมสาธารณสุขได้ลงพื้นที่คัดกรองและควบคุมโรคอย่างเข้มงวด พร้อมดูแลสุขภาพจิตผ่านทีม MCATT ซึ่งได้ประเมินผู้อพยพแล้วกว่า 12,948 ราย เพื่อคัดกรองผู้ที่มีภาวะเครียดสูงเข้าสู่กระบวนการดูแลอย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เน้นย้ำความสำคัญของสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อมภายในศูนย์พักพิง โดยผลการประเมินล่าสุดพบว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานทุกแห่ง พร้อมชื่นชมความเสียสละและความทุ่มเทของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ร่วมกันดูแลประชาชนอย่างเต็มกำลัง
