นายสีสะหวาด อินพะจัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง โดยภายหลังการหารือ สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญของการหารือ
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีต่อการเข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูต สปป. ลาว อย่างเป็นทางการ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์และความเข้าใจประเทศไทยของเอกอัครราชทูต จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทย–สปป. ลาว ให้ก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม โดยไทยให้ความสำคัญต่อ สปป. ลาว ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยาวนาน บนพื้นฐานวัฒนธรรมและประเพณีที่คล้ายคลึงกัน และมุ่งส่งเสริมความร่วมมืออย่างรอบด้านให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
ด้านเอกอัครราชทูต สปป. ลาว แสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และแสดงความเสียใจต่อเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ของไทย โดยรัฐบาล สปป. ลาว ได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณต่อการช่วยเหลือดังกล่าว พร้อมย้ำความพร้อมของฝ่าย สปป. ลาว ในการสานต่อความร่วมมือให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการผลักดันเป้าหมายด้านการค้าระหว่างกัน
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือประเด็นความร่วมมือสำคัญ โดยยินดีต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีที่แน่นแฟ้นในทุกระดับ โดยเฉพาะระดับประชาชน และการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงที่เพิ่มขึ้น ทั้งยังเป็นวาระครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–สปป. ลาว ซึ่งได้มีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองอย่างต่อเนื่อง พร้อมเห็นพ้องผลักดันการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (JC) ในปี 2569 โดย สปป. ลาว พร้อมเป็นเจ้าภาพ
ด้านความเชื่อมโยงและโลจิสติกส์ ทั้งสองฝ่ายยินดีต่อพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ–บอลิคำไซ) ในวันที่ 25 ธันวาคม 2568 ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงผู้คน ขยายโอกาสการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำการสนับสนุนนโยบาย Land-Locked-to-Land-Linked ของ สปป. ลาว และคาดหวังความคืบหน้าการก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงระหว่างหนองคายกับนครหลวงเวียงจันทน์
สำหรับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา นายกรัฐมนตรีขอบคุณท่าทีของ สปป. ลาว และย้ำการรับข้อมูลที่ถูกต้องจากฝ่ายไทย โดยยืนยันว่าไทยไม่เคยรุกรานก่อน การดำเนินมาตรการควบคุมการส่งออกน้ำมันเป็นมาตรการชั่วคราวเพื่อป้องกันการลักลอบขนส่งไปยังกัมพูชา ไม่ได้มีเป้าหมายจำกัดการส่งออกไปยัง สปป. ลาว และเป็นประเด็นทวิภาคีระหว่างไทยกับกัมพูชาเท่านั้น
