นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก มีประชาชนจำนวน 59,854 คน จาก 6 ตำบล 86 หมู่บ้าน จำเป็นต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว
ขณะเดียวกัน อาสาสมัครชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่เพื่อดูแลทรัพย์สินและความเรียบร้อยของชุมชน ซึ่งเป็นภารกิจที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยง ความกังวล และแรงกดดันตลอด 24 ชั่วโมง ส่งผลให้อาสาสมัครจำนวนมากเกิดภาวะเครียด วิตกกังวล และนอนไม่หลับ ขณะที่การเข้าถึงบริการสาธารณสุขมีความจำเป็นอย่างยิ่งในภาวะฉุกเฉิน
ดังนั้น นพ.ยุทธนา วรรณโพธิ์กลาง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ จึงมอบหมายให้โรงพยาบาลกาบเชิง จัดระบบบริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เพื่อดูแลอาสาสมัคร ชรบ. ที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่แนวหน้า
หัวใจสำคัญของระบบดังกล่าว คือ นพ.กฤษพงษ์ สุบันนารถ แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลกาบเชิง ซึ่งทำหน้าที่เป็น “แพทย์ประจำตัว” ดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตของอาสาสมัครจำนวนมากในพื้นที่เสี่ยง โดยอาสาสมัครที่มีอาการเจ็บป่วยหรือมีปัญหาสุขภาพระหว่างปฏิบัติหน้าที่ สามารถสแกน QR Code เพื่อพบแพทย์ผ่านระบบ Telemedicine ได้ทันที เพื่อพูดคุย ปรึกษา และรับคำแนะนำ
กรณีมีความจำเป็นต้องได้รับยา โรงพยาบาลได้จัดระบบส่งยาให้ถึงมืออาสาสมัครโดยไม่ต้องเสี่ยงเดินทางออกจากพื้นที่ รวมถึงมีสายตรงแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว เปิดให้ปรึกษาในเวลาราชการ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับผู้เสียสละว่ามีระบบสาธารณสุขคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ บริการ Telemedicine ในพื้นที่ชายแดนกาบเชิง ไม่เพียงเป็นการรักษาโรค แต่ยังเป็นการดูแลหัวใจของผู้ปกป้องชุมชน สะท้อนถึงศักยภาพของแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เชื่อมโยงความห่วงใยจากแนวหลังสู่แนวหน้า ในช่วงเวลาที่การเดินทางและความปลอดภัยมีข้อจำกัดสูงสุด
