สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยประจำเดือนพฤศจิกายน 2568 ว่า การส่งออกของไทยยังคงขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 7.1 มีมูลค่า 27,445.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทย 890,204 ล้านบาท ขณะที่การนำเข้าขยายตัวร้อยละ 17.6 มีมูลค่า 30,172.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้าในเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 2,726.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับภาพรวมการค้า 11 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออกขยายตัวร้อยละ 12.6 มีมูลค่า 310,706 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนการนำเข้าขยายตัวร้อยละ 12.4 มีมูลค่า 315,662.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ดุลการค้าในช่วงดังกล่าวขาดดุล 4,956.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
กลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรมีมูลค่าส่งออกหดตัวร้อยละ 9.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า ประกอบกับการแข่งขันในตลาดโลกที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะจากประเทศคู่แข่งสำคัญ ได้แก่ เวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย ซึ่งสามารถส่งออกสินค้าในราคาที่ต่ำกว่า ส่งผลให้สินค้าเกษตรของไทยเผชิญความเสี่ยงด้านขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว หากค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน มูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมยังขยายตัวร้อยละ 12.2 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 20 โดยเฉพาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ซึ่งได้รับความต้องการเพิ่มขึ้นในตลาดสหรัฐอเมริกา จีน และเนเธอร์แลนด์ สอดคล้องกับการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ด้าน นันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กล่าวว่า ตลาดสหรัฐอเมริกายังคงเป็นตลาดหลักที่ช่วยพยุงภาพรวมการส่งออกของไทยในปี 2568 โดยขยายตัวสูงถึงร้อยละ 37.9 ขณะที่ตลาดหลักอื่น ๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศ CLMV มีการชะลอตัว ส่งผลให้การขยายตัวของตลาดหลักโดยรวมอยู่ที่ร้อยละ 7.4 ส่วนตลาดรอง อาทิ เอเชียใต้ ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร ขยายตัวร้อยละ 7.6 ขณะที่ตลาดอื่น ๆ หดตัวร้อยละ 30.1
ทั้งนี้ ปัจจัยกดดันการส่งออกไทยยังมาจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดโลก รวมถึงผลจากการเร่งส่งออกในช่วงก่อนหน้าที่เริ่มลดลง อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกจากการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
สำหรับแนวโน้มปี 2569 นายนันทพงษ์คาดว่า การส่งออกของไทยมีแนวโน้มชะลอตัวจากแรงกดดันที่ต่อเนื่องจากปี 2568 รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าหลักที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ อย่างไรก็ดี ความชัดเจนของแนวทางการเจรจาด้านภาษีกับสหรัฐอเมริกา อาจเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยประคับประคองการส่งออกของไทยในระยะต่อไป
