นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์ปีใหม่ปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน ถวายเป็นพระราชกุศลพระพันปีหลวงและปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลความปลอดอดภัยประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ณ สถานการณ์กรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งจัดโดยมูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัท ขนส่ง จำกัด สำนักงางานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุเมาไม่ขับ ภาครัฐ ภาคเอกชน
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาที่มีการเดินทางเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน แม้ว่าหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนจะร่วมกันรณรงค์ป้องกันอย่างเต็มที่ แต่สถิติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บก็ยังคงสูง

ตามข้อมูลจากมูลนิธิ เมาไม่ขับ รายงาน ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2568 ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตถึง 321 คน บาดเจ็บ 1,894 คน กิจกรรมในวันนี้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างรัฐกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการร่วมกันรณรงค์ลดจำนวนอุบัติเหตุทางถนนและความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยสร้างความตระหนักรู้ในการใช้รถให้อย่างระมัดระวังและลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้กระทรวงคมนาคม เห็นด้วยที่จะมีการแก้ไขกฎหมายเมาแล้วขับ ให้มีบทลงโทษที่หนักขึ้น โดยเฉพาะคนที่เมาแล้วขับชนคนเสียชีวิตต้องถูกจำคุกเพื่อให้เกิดความเกรงกลัวและไม่กล้าผ้าฝืนกฎหมายเมาแล้วขับ กระทรวงคมนาคมได้เข้มงวดกวดขันผู้ขับขี่ต้องปลอดจากแอลกอฮอล์ ตรวจเข้มในเรื่องการเมาแล้วขับ การขับรถเร็ว การโทรแล้วขับ เป็นต้น
หากตรวจพบว่าพนักงานขับรถ โดยสารสาธารณะทุกประเภท มีปริมาณแอลกอฮอล์ จะมีการลงโทษสถานหนักถึงขั้นไล่ออก ให้ออก ตัดเงินเดือนหรือพักงาน ผู้ขับขี่รถสาธารณะเป็นบุคคลที่ต้องรับผิดชอบชีวิตผู้อื่นเป็นจำนานากจึงจำเป็นต้องมีมาตรฐานในการขับขี่รถที่สูงกว่าผู้ขับขี่รถทั่วไป หากดื่มสุราในขณะปฏิบัติหน้าที่ มีความผิดตามกฎหมายขนส่งโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000 – 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทางด้านนายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิมาไม่ขับ เปิดเผยว่า ถึงเวลาที่ประเทศไทยต้องจับ เนื่องจากปัจจุบันศาลทั่วประเทศใช้ดุลพินิจในการตัดสินลงโทษคนที่เมาแล้วขับ โดยเฉพาะคนที่มีพฤติกรรมเมาแล้วขับซ้ำซาก หรือคนที่เมาแล้วขับไปชนชนคนเสียชีวิต ด้วยโทษสถานหนักจำคุกไม่รอลงอาญา หรือกรณีเมาแล้วขับใช้โทษกักชังโดยเฉพาะในช่วง 7 วันอันตราย กักขัง 7 วัน เชื่อว่าคนเมาบนท้องถนนจะลดลงไปอย่างมาก








