กรณีสื่อมวลชนตั้งข้อสงสัยว่ารัฐบาลแอบเปิดประเทศ โดยไม่ชี้แจงข้อมูลให้ประชาชนทราบ นั้น
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า ปัจจุบันรัฐบาลได้ออกมาตรการผ่อนคลายให้ชาวต่างชาติกลุ่มต่าง ๆ ที่มีเหตุผลความจำเป็น เดินทางเข้าประเทศไทยได้ เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสาธารณสุขของประเทศ ซึ่งการดำเนินการทุกขั้นตอนเป็นไปตามแนวปฏิบัติของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทุกประการ
จากประกาศการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ที่ห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น ได้มีการยกเว้นให้อากาศยานบางประเภททำการบินเข้าประเทศไทยได้ อาทิ เที่ยวบินรับส่งบุคคลกลับประเทศไทยหรือกลับภูมิลำเนา (repatriation flight) หรือเที่ยวบินขนส่งสินค้า (cargo flight) ไม่ได้เป็นการปิดน่านฟ้าหรือปิดประเทศโดยสิ้นเชิงแต่อย่างใด และได้มีการยกเลิกประกาศดังกล่าวแล้วตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2563 และในช่วงที่มีการห้ามอากาศยาน กระทรวงฯ ได้อาศัยช่องทางอากาศยานที่ได้รับการยกเว้นในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องคนไทยที่ตกค้างในต่างประเทศเดินทางกลับไทย รวมถึงคนต่างชาติที่ตกค้างในประเทศไทยกลับภูมิลำเนา ซึ่งต่อมา ก็มีมาตรการผ่อนคลายให้ชาวต่างชาติกลุ่มต่าง ๆ ที่มีความจำเป็นเดินทางเข้าประเทศไทยในจำนวนจำกัดด้วย
กระทรวงการต่างประเทศ เป็นหน่วยงานที่พิจารณาคำขอของชาวต่างชาติที่เข้าเงื่อนไขในกลุ่มต่าง ๆ เพื่อออกหนังสือรับรองเพื่อเดินทางเข้าราชอาณาจักร (Certificate of Entry – COE) และตรวจลงตราให้แก่ชาวต่างชาติก่อนเดินทางเข้าไทย โดยชาวต่างชาติต้องมีเอกสารที่เกี่ยวข้องในการขอรับการตรวจลงตราประเภทนั้น ๆ และหลักฐานการจอง Alternative State Quarantine (ASQ) มาแสดง รวมถึงก่อนเดินทางต้องแสดงเอกสารใบรับรองแพทย์ fit to fly/travel และ Covid-free ที่มีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางด้วย โดยชาวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้าไทยต้องเข้ารับการกักกันตามระยะเวลาและในสถานที่ที่หน่วยงานภาครัฐกำหนดหรือเห็นชอบ
หลังจากรัฐบาลมีนโยบายให้ผ่อนคลายอนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้าประเทศไทยมากขึ้นเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศ กระทรวงการต่างประเทศได้อำนวยความสะดวกให้แก่กลุ่มบุคคลเหล่านี้ โดยการบริหารจัดการเที่ยวบินในลักษณะกึ่งพาณิชย์ (semi-commercial flight) ที่จัดทำแนวทางร่วมกับ กพท. ให้สายการบินพาณิชย์สามารถให้บริการเที่ยวบินแบบกึ่งพาณิชย์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้เดินทางเข้าไทย และอนุญาตให้มีการตรวจลงตรา (วีซ่า) ประเภทต่าง ๆ เช่น รหัส TR และ STV สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยว รหัส Non-Immigration B สำหรับกลุ่มนักธุรกิจและการทำงาน รหัส O-A และ O-X สำหรับกลุ่มที่เดินทางเข้ามาเพื่อใช้ชีวิตในบั้นปลาย เป็นต้น ซึ่งมีชาวต่างชาติให้ความสนใจขอรับการตรวจลงตราเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ นอกจากนี้ กระทรวงฯ ได้ผลักดันให้มีการเพิ่มจำนวน ASQ เพื่อรองรับผู้เดินทางเข้าประเทศที่แนวโน้มจะมีจำนวนมากขึ้น โดยในขณะนี้มี ASQ แล้ว 113 แห่ง สามารถรองรับผู้เดินทางเข้าได้ถึงประมาณ 15,000 คน
การดำเนินการดังกล่าว กระทรวงการต่างประเทศได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการการเดินทางเข้าประเทศไทยสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติผ่านสื่อมวลชนมาโดยตลอด รวมถึงการประชาสัมพันธ์เพื่ออำนวยความสะดวกคนไทยและชาวต่างชาติที่ประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศไทยโดยสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยในต่างประเทศ ซึ่งเป็นข้อมูลเปิดต่อสาธารณะ ประชาชนสามารถเข้าถึงได้
ด้านกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ชี้แจงว่า หลังจากรัฐบาลมีนโยบายเปิดรับคนไทยกลับประเทศ ทำให้มีคนไทยทยอยเดินทางกลับเข้าประเทศ โดยทุกคนต้องเข้ารับการกักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ และสถานที่รัฐกำหนด เพื่อควบคุม เฝ้าระวังการแพร่ระบาด เป็นเวลา 14 วัน เมื่อพบว่าป่วย สามารถส่งต่อเข้าระบบการรักษาได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีการแพร่ระบาดแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เมื่อสถานการณ์โควิด 19 ในประเทศไทย อยู่ในระดับที่มีความเสี่ยงต่ำ สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ รัฐบาลจึงได้เปิดรับชาวต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจ และรับการรักษาโรคที่ไม่ใช่โควิด และการท่องเที่ยวสำหรับต่างชาติประเภทพิเศษ (Special Tourist Visa : STV) เพื่อสร้างสมดุลของระบบสุขภาพและเศรษฐกิจ โดยทุกคนที่เข้ามาในประเทศต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน ควบคุมโรคที่ภาครัฐกำหนด โดยข้อมูลตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน – 1 ธันวาคม 2563 มีผู้เดินทางเข้าประเทศรวม 163,735 คน ทุกคนเข้ารับการกักตัวที่รัฐระบุไว้ ในจำนวนนี้ตรวจพบเชื้อโควิด 19 จำนวน 1,044 รายคิดเป็นร้อยละ 0.64 ของผู้เดินทางทั้งหมด ในจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นคนไทย 826 ราย ต่างชาติ 218 ราย กลับบ้านแล้ว 910 ราย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
ปัจจุบันมีผู้เดินทางเข้าประเทศเฉลี่ยวันละ 700 – 800 คน เมื่อเทียบกับในอดีตที่ยังไม่มีการระบาดของโควิด 19 มีการเดินทางเข้ามาวันละประมาณ 1 แสนราย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทาง ศบค. ได้แจ้งข้อมูลการคัดกรองผู้เดินทางเข้าออกประเทศและรายงานในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทางเว็บไซต์กรมควบคุมโรค อย่างต่อเนื่องทุกวัน