นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงแนวทางการยุติปัญหาการขยายสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งจะครอบคลุมส่วนต่อขยายหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่จะมีขยายสัมปทานออกไปอีก 30 ปี ก่อนที่จะสิ้นสุดสัญญาระหว่างกรุงเทพมหานครกับบีทีเอส ในปี 2572 ว่า ในเร็วๆ นี้เตรียมนำรายละเอียดในส่วนของกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นข้อมูลเพิ่มต่อในความคิดเห็น นำเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงหมาดไทย เพื่อให้เกิดความรอบคอบในการดำเนินการ และต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนผู้ใช้บริการ และมั่นใจว่าการขยายสัมปทาน จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินรถสายสีเขียว หากพิจารณาเรียบร้อยเนื่องจากตอบประเด็นข้อกฎหมายก็สามารถนำเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาได้ รวมถึงประเด็นการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ยืนยันว่า ประชาชนจะจ่ายค่าโดยสารสูงสุดต่ำกว่า 65 บาทแน่นอน
กรณีมีการเผยแพร่ข่าวว่า บีทีเอส เตรียมขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าตลอดเส้นทาง เป็นจำนวน 158 บาท นั้น
บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส ยืนยันว่า เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและผิดพลาดจากข้อเท็จจริง การกำหนดราคาค่าโดยสารตามสัญญาสัมปทานเดิม รถไฟฟ้าบีทีเอส ในฐานะผู้รับผิดชอบการบริหารรถไฟฟ้า ระยะทาง 23.5 กม. เส้นทางหมอชิต-อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน มีการกำหนดอัตราค่าโดยสารปัจจุบันในอัตรา 16 ถึง 44 บาท ตามระยะทาง
ขณะที่ช่วงส่วนต่อขยายทั้งหมด อ่อนนุช-สำโรง-เคหะฯ วงเวียนใหญ่-บางหว้า หมอชิต-วัดพระศรีฯ กรุงเทพมหานครเป็นผู้กำหนดค่าโดยสาร
ส่วนประเด็นค่าโดยสารที่จะเพิ่มขึ้นจากเส้นทางเดินรถไฟฟ้าในส่วนต่อขยาย ช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า, ช่วงอ่อนนุช-เคหะ และ ช่วงหมอชิต-คูคต ยังคงเป็นการกำหนดโดยกรุงเทพมหานคร BTSC อยู่ในฐานะผู้รับจ้างการเดินรถในส่วนต่อขยายนี้เท่านั้น
ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทย รวมถึงกรุงเทพมหานครมีเป้าหมายในการทำให้ค่าโดยสารมีอัตราที่เหมาะสม โดยจะมีการเก็บค่าโดยสารตามระยะทางเริ่มต้นจาก 15 บาท และรวมตลอดเส้นทางอยู่ในระดับไม่เกิน 65 บาท เพื่อไม่ให้เป็นภาระกระทบต่อคุณภาพชีวิตชาวกรุงเทพมหานคร จากค่าโดยสารตลอดเส้นทางที่ศึกษาไว้เดิมสูงสุดถึง 158 บาท จนนำมาสู่ การเจรจาเพื่อแก้ไขสัญญาสัมปทาน เพื่อให้สามารถจัดเก็บค่าโดยสารตามเป้าหมายและแก้ไขปัญหาเรื่องภาระหนี้สินของกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการและกระทรวงมหาดไทยและอยู่ระหว่างการเสนอขออนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี