แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ กรมสุขภาพจิตได้ติดตามเฝ้าระวังสภาวะทางอารมณ์และจิตใจของประชาชน พร้อมจัดทำโปรแกรม Mental Health Check In เพื่อให้ประชาชนสามารถสำรวจตนเองได้ อีกทั้งให้เจ้าหน้าที่นำไปดำเนินการตรวจสอบกับกลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่มคือ ผู้ติดเชื้อ ญาติ/ผู้ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ ผู้ที่อยู่ในพื้นที่กักกัน และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีความเปราะบาง เพื่อจะได้ทราบถึงภาวะจิตใจและวิธีจัดการด้านอารมณ์ ซึ่งเมื่อผลการประเมินออกมา ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงจะมีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาและดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะทางจิตใจคือ ความกังวลหรือตระหนกต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มากเกินไป ทำให้จิตใจเกิดความกลัวอย่างหนัก ซึ่งในกลุ่มนี้ขอแนะนำให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งที่เชื่อถือได้และเป็นข้อเท็จจริงเท่านั้น จะได้ไม่ตื่นกลัวกับสถานการณ์มากเกินไป และอีกส่วนหนึ่งคือกลุ่มที่มีภาวะอ่อนล้าทางอารมณ์ เนื่องจากการแพร่ระบาดที่ต่อเนื่อง ต้องทำให้จิตใจเข้มแข็ง โดยเริ่มจากการพูดคุยกับบุคคลใกล้ตัว หากิจกรรมทำร่วมกัน หรือปรึกษาเจ้าหน้าที่ผ่านทางสายด่วน 1323
ส่วนกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะมีความเครียด ทางกรมสุขภาพจิต ได้จัดทีมงานประจำในทุกพื้นที่และโรงพยาบาลสนาม รวมถึงมีโปรแกรม Mental Health Check In ที่เป็นภาษาสำหรับแรงงานต่างด้าวให้สามารถตรวจสอบสภาวะทางอารมณ์ด้วยตนเองได้