กรมอนามัย ชี้ ยังไม่พบการติดเชื้อโควิด จากการใช้บริการรับ-ส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่

กรมอนามัย ระบุ ยังไม่พบการติดเชื้อโควิด-19 จากการรับ-ส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ที่มีพนักงานมากถึง 3.4 แสนคน แต่ย้ำผู้ประกอบการ พนักงานและประชาชนผู้รับบริการให้ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

รายการ “NBT รวมใจสู้ภัยโควิด-19 @ทำเนียบรัฐบาล” ได้เจาะลึกในประเด็น “สั่งอาหารเดลิเวอรี่-สั่งของออนไลน์อย่างไร?… ให้ปลอดภัยจากโควิด-19” โดย นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้มีมาตรการป้องกันโควิด-19 สำหรับ Delivery ประกอบด้วย

มาตรการสำหรับร้าน Delivery ต้องปฏิบัติใน 6 ข้อนี้ดังนี้ คือ

1.อาหารต้องปรุงสุกใหม่ สำหรับประเภทเนื้อสัตว์ให้สุกด้วยความร้อน 70 องศาเซลเซียส
2.หากมีอาการป่วย ให้หยุดปฏิบัติงานและพบแพทย์ทันที
3.จัดให้มีจุดบริการล้างมือพร้อมสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์
4.จัดสถานที่ให้เพียงพอกับจำนวนคนที่จัดส่งอาหาร และเว้นระยะห่าง
5.จัดหาภาชนะที่เหมาะสมกับอาหารแต่ละประเภท ปกปิดมิดชิด
6.มีการติดฉลากที่ระบุรายละเอียดอย่างชัดเจน เช่น ชื่อร้าน วันหมดอายุ

มาตรการสำหรับพนักงานจัดส่งอาหาร ต้องปฏิบัติใน 7 ข้อนี้ดังนี้ คือ
1.สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อป้องกันตนเอง และลดความเสี่ยงจากการได้รับเชื้อโรคระหว่างให้บริการ
2.ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์
3.หากมีอาการป่วยหรือเหนื่อยหอบ ให้หยุดปฏิบัติงานและไปพบแพทย์ทันที
4.จัดหากล่องบรรจุอาหารท้ายยานพาหนะที่มีโครงสร้างแข็งแรง ปกปิดมิดชิด
5.ตรวจสอบคุณภาพอาหารทันที หลังได้รับจากร้านอาหาร เช่น ความสะอาด
6.ไม่เปิดกล่องบรรจุอาหารท้ายยานพาหนะจนกว่าจะถึงมือผู้สั่งซื้อ และก่อนเปิดกล่องบรรจุอาหารทุกครั้งต้องทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์
7.ล้างมือทุกครั้งก่อนสวมถุงมือในระหว่างการใช้ยานพาหนะ และเปลี่ยนถุงมือทุก 4 ชั่วโมง

มาตรการสำหรับผู้รับบริการ ต้องปฏิบัติใน 5 ข้อนี้ดังนี้ คือ
1.ล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ หลังได้รับอาหารหรือก่อนรับประทานอาหาร
2.สวมหน้ากากอนามัยระหว่างการรับอาหารและชำระเงินจากคนส่งอาหาร
3.หลีกเลี่ยงการสั่งอาหารจากกลุ่มเสี่ยง เช่น อาหารปรุงไม่สุก อาหารเสียง่าย
4.ตรวจสอบคุณภาพอาหารก่อนรับอาหารหรือก่อนบริโภค เช่น การบรรจุหีบห่อ กลิ่นอาหาร ความสะอาด
5.ชำระเงินผ่าน Application หลีกเลี่ยงการชำระเงินสด หรือการสัมผัสกับคนส่งอาหาร

คุมเข้มพนักงานเดลิเวอรี่ 3.4 แสนคนต้องปลอดเชื้อโควิด


นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า พนักงานที่ทำหน้าที่ส่งอาหารจากผู้ประกอบการทุกแพลตฟอร์มที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ พบว่ามีมากถึง 340,000 คน ซึ่งทางกรมอนามัยได้หารือกับผู้ประกอบการแพลตฟอร์มใหญ่ ๆ ให้ดูแลพนักงานส่งสินค้าเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งได้มีการทำประกันภัยไว้ แต่สถานการณ์การระบาดครั้งนี้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการ เราจึงยกระดับการดูแลให้เข้มข้นขึ้นดังนี้ คือ


1.เข้มงวดให้ผู้ประกอบการทุกรายต้องปฏิบัติตามแนวทางคำแนะนำของ ศบค.อย่างเคร่งครัดและเช็กประวัติผ่านเว็บ Thai Stop Covid-19


2.ต้องคัดกรองประวัติ หากพบว่ามีการเดินทางไปในสถานที่ระบาดว่ามีการรวมกลุ่มหรือมั่วสุมกันหรือไม่ หรือเล่นพนันไม่ถูกต้องตามกฎหมาย นี่เป็นความเสี่ยงที่ต้องคัดกรอง และถ้าพบว่ามีการติดเชื้อจะต้องกักตัว 14 วัน หากมีความปลอดภัยจึงให้กลับมาทำงานได้


3.ถ้าคัดกรองแล้ว ต้องติดตามตัวพนักงานทุกวัน เพื่อดูว่าปลอดภัยทุกวันและดูการทำงาน ซึ่งทุกแพลตฟอร์มมีระบบติดตามไทม์ไลน์ของพนักงานที่ไปส่งอาหาร และตรวจสอบติดตามการย้อนกลับทุกราย ล่าสุด รองนายกฯและรมว.สาธารณสุขได้สนับสนุนให้มีการฉีดวัคซีนแก่กลุ่มพนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี่ โดยจะเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อเพื่อให้คนกลุ่มนี้ได้มาลงทะเบียน ขณะที่มาตรการ Work From Home (WFH) ได้ช่วยให้เกิดความปลอดภัย แต่พนักงานส่งอาหารก็ต้องไม่เป็นผู้มีความเสี่ยงสูง หรือผู้ติดเชื้อด้วย

ยังไม่พบติดเชื้อจากการรับ-ส่งอาหารเดลิเวอรี่

จากการติดตามข้อมูลยังไม่มีรายงานว่ามีการติดเชื้อโควิด-19 จากพนักงานส่งอาหาร แต่เกิดจากความประมาทและติดเชื้อกันในครอบครัว เนื่องจากรับประทานอาหารร่วมกัน ส่วนมาตรการผ่อนปรนให้ร้านอาหารเปิดให้บริการได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4 จังหวัด คือกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ โดยให้มีลูกค้าเข้ามานั่งในร้านไม่เกิน 25% (ใน 100 คน นั่งได้ 25 คน) และนั่งรับประทานได้ไม่เกิน 1-2 ชั่วโมงนั้น รวมทั้งต้องนั่งห่างกัน 1-2 เมตร เพื่อเว้นระยะห่างและป้องกันโรคโควิด-19 นั้น พบว่าร้านค้าพอใจ และมีการปรับตัว ซึ่งดีกว่าไม่ได้ขาย

แนะประชาชนตระหนักแต่อย่าตระหนก
ขณะเดียวกันจากที่ได้หารือกับสมาคมภัตตาคารไทย ยังมีร้านอาหารบางส่วนที่ไม่เข้าใจในมาตรการดังกล่าว ซึ่งก็ได้ดำเนินมาตรการนี้มา 1 สัปดาห์แล้ว โดยมีหน่วยงานในส่วนกลางและส่วนจังหวัดได้ติดตามตรวจสอบ หากครบ 14 วัน นับแต่วันที่มีการประกาศผ่อนคลายมาตรการและไม่พบการติดเชื้อในร้านอาหาร ก็อาจจะมีมาตรการที่ผ่อนคลายมากขึ้น โดยจะนำผลที่ได้มาพิจารณาในรอบถัดไป

ส่วนการดำเนินชีวิตให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 นั้น อยากฝากประชาชนว่า ตระหนักแต่อย่าตระหนก ซึ่งเราสามารถใช้ชีวิตผ่านมาตรการ WFH ได้ แต่ต้องเลือกผู้ประกอบการในการส่งอาหารที่เชื่อถือได้ อาหารที่สั่งซื้อต้องมีความเหมาะสม ต้องเข้มงวดเรื่องการเว้นระยะห่าง และต้องปฏิบัติตามมาตรการ DMHTT อย่างเคร่งครัด รวมถึงต้องสังเกตตัวเองเสมอว่ามีโอกาสรับเชื้อได้โดยไม่รู้ตัว ถ้าต้องออกไปพบกับผู้คน และถ้าสงสัยว่ามีอาการ ก็ควรไปรับการตรวจเชื้อและคัดกรองทันที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง