นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน มีมติปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม หรือ LPG ที่อัตรา 1 บาทต่อกิโลกรัม เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยทยอยขึ้นเดือนละ 1 บาทต่อกิโลกรัม โดยจะใช้โมเดลเดียวกับที่ปรับขึ้นเดือนเมษายน-มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา
การปรับดังกล่าว ส่งผลให้ เดือนกรกฎาคม 2565 ราคา LPG จะอยู่ที่ 378 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม , เดือนสิงหาคม อยู่ที่ 393 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม และกันยายนอยู่ที่ 408 ต่อถัง 15 กิโลกรัม
ขณะที่ปัจจุบันต้นทุนจริงของราคา LPG อยู่ที่ 460 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม
ทั้งนี้ เพื่อลดภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ที่ยังอุดหนุนอยู่ ซึ่การปรับขึ้นรอบนี้จะทำให้เงินติดลบลดลง เดือนละ 200 ล้านบาท (มีเงินไหลเข้ากองทุนเดือนละ 200 ล้านบาท) ซึ่งปัจจุบันบัญชี LPG ติดลบถึง 36,515 ล้านบาท
ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งมีแนวโน้มราคาสูง และอาจต้องปล่อยให้ราคาก๊าซหุงต้มสะท้อนความเป็นจริง โดยต้องเลือก ช่วยเฉพาะกลุ่ม ยอมรับว่าหลังจากนี้อีกสามเดือน ยังไม่เห็นปัจจัยบวก
ที่ประชุมได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ ประสานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อพิจารณาบริหารจัดการเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้สอดคล้องกับแนวทางการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซ LPG ต่อไป
ขณะที่มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ประสาน ปตท. ขอความร่วมมือ ขยายระยะเวลาช่วยเหลือส่วนลดราคาก๊าซ LPG แก่ร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ ปตท. ดำเนินการอยู่ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565
นอกจากนี้ที่ประชุม กบง. ยังมีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาโครงการยกระดับความช่วยเหลือ ‘ส่วนลด’ ค่าซื้อก๊าซหุงต้ม แก่ผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อีก 3 เดือน ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 ถึงเดือนกันยายน 2565 โดยมอบหมายให้ ธพ. จัดทำคำขอรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อใช้สำหรับดำเนินโครงการยกระดับความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อีก 55 บาทต่อคน ต่อ 3 เดือน เป็น 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 ถึงเดือนกันยายน 2565 สำหรับผู้ใช้สิทธิ 4,000,000 ราย รวมเงินงบประมาณ 220,000,000 บาท
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาก๊าซ NGV ที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยให้กระทรวงพลังงานขอความอนุเคราะห์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) คงราคาขายปลีกก๊าซ NGV ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม และคงราคาขายปลีกก๊าซ NGV โครงการเอ็นจีวี เพื่อลมหายใจเดียวกัน ให้กับผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2565 ถึงวันที่ 15 กันยายน 2565
ส่วนมาตรการลดค่าของชีพด้านพลังงานล็อตใหม่ จะเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ เช่นเดียวกับผลสรุปการกู้เงินสถาบันการเงินเพื่อเข้ากองทุนน้ำมันฯก็จะทราบผลสัปดาห์หน้า