การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัล (ASEAN Digital Ministers’ Meeting: ADGMIN) คืออะไร
- การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัล ครั้งที่ 5 (The 5th ASEAN Digital Ministers’ Meeting: ADGMIN)ระหว่างวันที่ 16 – 17 มกราคม 2568 เป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีเฉพาะสาขาด้านดิจิทัล โดยสาขาดิจิทัล อยู่ภายใต้เสาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
- การประชุมดังกล่าว เป็นการปฏิบัติตามข้อตกลงและข้อตัดสินใจของที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ที่อยู่ในขอบข่ายการดำเนินงานของตน และเสริมสร้างความร่วมมือในสาขาของแต่ละองค์กรให้เข้มแข็งขึ้น เพื่อสนับสนุนการรวมตัวของประชาคมอาเซียน
- ผู้เข้าร่วมการประชุมคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่กำกับดูแลด้านดิจิทัลจากประเทศสมาชิกอาเซียน
- การประชุมดังกล่าว จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ปีละ 1 ครั้ง โดยจะจัดต่อเนื่องกับการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านดิจิทัล (ADGSOM)
- การประชุมครั้งล่าสุด ครั้งที่ 4 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 2 กุมภาพันธ์ 2567 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์
บทบาทของไทยในการประชุมครั้งนี้
- ไทยทำหน้าที่การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม และทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมทั้งในระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส (ADGSOM) และการประชุมระดับรัฐมนตรี (ADGMIN)
- ไทยเสนอและผลักดันประเด็นการดำเนินการของคณะทำงานอาเซียนด้านการป้องกันปัญหาการหลอกลวงผ่านสื่อออนไลน์ (WG – AS) ที่มีไทยทำหน้าที่ประธาน พร้อมผลักดันรายงานและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการสร้าง ความตระหนักรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามออนไลน์ การพัฒนาแนวทางเพื่อประสานงานด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ประกอบด้วย
ร่างรายงานการสำรวจกิจกรรมการหลอกลวงออนไลน์ในอาเซียน (พ.ศ. 2566 – 2567) ภายใต้คณะทำงานอาเซียนด้านการป้องกันปัญหาการหลอกลวงผ่านสื่อออนไลน์ (Report of the Online Scams Activities in ASEAN (2023 – 2024) under the ASEAN Working Group on Anti – Online Scam (WG – AS)) เป็นการสำรวจข้อมูลปัญหาการหลอกลวงออนไลน์ในอาเซียน
ร่างเอกสารข้อแนะนำของอาเซียนในการต่อต้านการหลอกลวงออนไลน์ (ASEAN Recommendations on Anti – Online Scam) เป็นข้อเสนอแนะสำหรับประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อจัดการปัญหาการหลอกลวงออนไลน์ ผ่านช่องทางดิจิทัลและโทรคมนาคม ซึ่งจะถูกบรรจุอยู่ในร่างปฏิญญาดิจิทัลกรุงเทพ (Bangkok Digital Declaration) โดยจะมีการรับรองระหว่างการประชุม ADGMIN ครั้งที่ 5
ดีอี เชื่อมั่นเวทีประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัล ADGMIN ครั้งที่ 5 ปลุก 10 ประเทศอาเซียน ร่วมพัฒนาดิจิทัลอย่างทั่วถึง-เท่าเทียม ทั่วภูมิภาค
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า เวทีการประชุม ADGMIN ครั้งที่ 5 เป็นเวทีการประชุมรัฐมนตรีที่กำกับดูแล ด้านดิจิทัลของอาเซียน 10 ประเทศ รวมถึงคู่เจรจาของอาเซียน ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สหรัฐอเมริกา อินเดีย และสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Union: ITU) รวมทั้งเลขาธิการอาเซียน และรัฐมนตรีจากติมอร์ เลสเต เข้าร่วมในฐานะผู้สังเกตการณ์ของอาเซียน เพื่อร่วมหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในการกำหนดทิศทางการพัฒนาด้านดิจิทัลในอาเซียน โดยมุ่งเน้นด้านเศรษฐกิจดิจิทัล นวัตกรรม เทคโนโลยีใหม่ การคุ้มครองข้อมูล การลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล และความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
ในการประชุม ADGMIN ครั้งที่ 5 นี้ ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพและประธานการประชุม ได้นำเสนอหัวข้อหลัก (Theme) คือ “Secure, Innovative, Inclusive: Shaping ASEAN’s Digital Future” หมายถึง การมุ่งเน้นและส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางดิจิทัลที่มั่นคงปลอดภัย ตอบสนองและรับมือต่อภัยคุกคามและอาชญากรรมไซเบอร์ การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอุบัติใหม่ และการเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทั่วถึงและเท่าเทียม ผ่านแกนหลักสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ ความมั่นคง นวัตกรรม และความครอบคลุม ซึ่งจะเป็นเสาหลักที่จะพัฒนาอนาคตด้านดิจิทัลและนำอาเซียนไปสู่ความก้าวหน้าไปสู่อนาคตของภูมิภาคอาเซียน
ในการประชุมฯ มีการพิจารณาประเด็นสำคัญ ได้แก่ การหารือระดับรัฐมนตรีที่กำกับดูแลด้านดิจิทัลของอาเซียน เพื่อแลกเปลี่ยนความก้าวหน้าและการพัฒนาด้านดิจิทัล โดยเฉพาะพัฒนาการที่สอดคล้องกับหัวข้อหลักของการประชุม เช่น การสร้างความเชื่อมั่นในบริการดิจิทัล ข้อริเริ่มการต่อต้านการหลอกลวงทางออนไลน์ บริการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีดิจิทัล และการพัฒนาทักษะทางดิจิทัล รวมถึงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของความร่วมมือกับคู่เจรจาและหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของอาเซียน
รวมทั้งยังมีการรับรองเอกสารสำคัญ อาทิ ปฏิญญาดิจิทัลกรุงเทพ (Bangkok Digital Declaration) แถลงข่าวร่วมผลการประชุม ADGMIN ครั้งที่ 5 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง (Joint Media Statement)
ร่างเอกสารสำคัญที่เป็นแนวทางการดำเนินงานด้านต่างๆ อาทิ ความร่วมมือในการแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ แนวปฏิบัติธรรมาภิบาลและจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) การพัฒนาการยืนยันตัวตนทางดิจิทัล สนับสนุนการไหลเวียนข้อมูล และการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรฐานโลก
นอกจากนี้ ยังมีการจัดการแข่งขันรางวัล ASEAN Digital Awards 2025 เป็นการแข่งขันรางวัลด้านดิจิทัลในระดับอาเซียน ประกอบด้วย 6 สาขา ได้แก่ Public Sector, Private Sector, Digital Inclusivity, Digital Content, Digital Start – up และ Digital Innovation เพื่อพัฒนาสิ่งสร้างสรรค์ นวัตกรรมใหม่ และสร้างแรงจูงใจ สำหรับการวิจัยและพัฒนาให้แก่นักนวัตกรรมด้านดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน และรัฐมนตรีอาเซียนจะเป็นผู้มอบรางวัลในพิธีประกาศผลรางวัลในช่วงงานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำ ณ โรงแรม Capella Bangkok เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568
นายกฯ เปิดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัล ครั้งที่ 5 ชูบทบาทไทยขับเคลื่อนอาเซียนสู่อนาคตดิจิทัล
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัล ครั้งที่ 5 (The 5th ASEAN Digital Ministers’ Meeting: ADGMIN) ณ โรงแรมอนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ โดยมีผู้แทนจาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน พร้อมคู่เจรจาสำคัญอย่างจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา อินเดีย และสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) รวมถึงผู้แทนติมอร์-เลสเต เข้าร่วมกว่า 300 คน
นายกฯ ชูประเด็นสำคัญ 3 ด้านสำหรับความร่วมมือด้านดิจิทัลในอาเซียน
นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ โดยมีประเด็นสำคัญ 3 ด้านสำหรับความร่วมมือด้านดิจิทัลในอาเซียนคือ
(1) การจัดการปัญหาการหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับทุกประเทศและจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือในระดับภูมิภาคเพื่อสร้างระบบนิเวศทางดิจิทัลให้มั่นคงปลอดภัย และมีมาตรฐานใน การรับมือและต่อสู้กับภัยหลอกลวงออนไลน์
(2) การแก้ไขปัญหาข้อมูลบิดเบือนซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในโลกไซเบอร์ โดยเสนอแนะอาเซียนในเรื่องกลไกการติดตามและตรวจสอบเนื้อหาออนไลน์ ส่งเสริมการรู้เท่าทันดิจิทัลแก่ประชาชน
(3) ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI กลายมาเป็นเทคโนโลยีที่มีความจำเป็นในปัจจุบัน และนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน ตระหนักถึง ความเสี่ยง และจริยธรรมในการใช้ AI อาเซียนเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพสูง ในการเป็นผู้นำและกำหนดมาตรฐาน AI ให้ทัดเทียมกับมาตรฐานโลก โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงาน Global Forum on the Ethics of AI ของยูเนสโกในปีนี้
การประชุมรัฐมนตรีดิจิทัลอาเซียนครั้งที่ 5 นี้ มีเป้าหมายสร้างอนาคตดิจิทัลที่แข็งแกร่ง ครอบคลุมและนำสมัย พร้อมก้าวข้ามความท้าทายสู่โอกาสใหม่ในภูมิภาคอย่างยั่งยืน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลฯ กล่าวว่า “การประชุมครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับประเทศไทยในการแสดงศักยภาพในฐานะศูนย์กลางด้านดิจิทัลของอาเซียน โดยเฉพาะในประเด็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและนวัตกรรม ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถของประเทศในหลายมิติ ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์ในหลายด้านจากการประชุมครั้งนี้ ทั้งการสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านดิจิทัลกับประเทศสมาชิกอาเซียนและคู่เจรจา ซึ่งจะนำไปสู่การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยี รวมถึงการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลและการพัฒนาทักษะดิจิทัลของคนไทย นอกจากนี้ การยกระดับความมั่นคง ปลอดภัยไซเบอร์ และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ยังเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในอนาคต”
ผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัล (ASEAN Digital Ministers Meeting: ADGMIN) ครั้งที่ 5 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 17 มกราคม 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลฯ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญที่มุ่งเสริมสร้างความร่วมมือด้านดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลที่มั่นคงและยั่งยืน โดยที่ประชุมได้หารือและรับรองประเด็นสำคัญ ได้แก่
1. การป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ ที่ประชุมรับรองรายงานการสำรวจการหลอกลวงออนไลน์ ในอาเซียน (พ.ศ. 2566–2567) และข้อเสนอแนะเพื่อเป็นแนวทางสำหรับการดำเนินงานระดับชาติและภูมิภาค พร้อมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคส่วนในการจัดการปัญหานี้อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะปัญหาการหลอกลวง ที่มีต้นตอจากประเทศแนวเขตชายแดน เช่น การหลอกลวงทางโทรศัพท์และการใช้โซเชียลมีเดีย เป็นเครื่องมือในการโกงเงิน ที่มักพบการเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้กระทำผิดในประเทศใกล้เคียง เช่น กัมพูชา เมียนมา และลาว การหารือจึงให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศ และการเสริมสร้างศักยภาพเจ้าหน้าที่ ในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ ประเทศสมาชิกยังได้เสนอการพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าร่วมกัน เพื่อช่วยลดผลกระทบจากการหลอกลวงในภูมิภาค
2. ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ รับทราบการจัดตั้งศูนย์ ASEAN Cert ณ สิงคโปร์ และรับรองเอกสาร ASEAN Checklist on Cyberspace Norms เพื่อสร้างมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในภูมิภาคโดยมีเป้าหมายลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความปลอดภัยของประชาชน พร้อมทั้งสนับสนุนการจัดตั้งหน่วยงานประสานงานเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ด้านไซเบอร์ในลักษณะเร่งด่วน
3. เศรษฐกิจดิจิทัล สนับสนุนการจัดทำกรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน (DEFA) เพื่อเร่งรัดการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และการป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ โดยที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางการส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพด้านดิจิทัล และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาค
4. ธรรมาภิบาลข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ รับรองแผนปฏิบัติการสำหรับ Global CBPR และเอกสารธรรมาภิบาล AI ที่ครอบคลุมถึง Generative AI เพื่อส่งเสริมการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ในภูมิภาคอย่างรับผิดชอบ โดยเน้นความโปร่งใส และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ พร้อมผลักดันการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม AI ที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในภูมิภาค
5. 5G และการเชื่อมโยง รับทราบความก้าวหน้าการใช้งาน 5G และหารือแนวทางลดค่าบริการข้ามแดน พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของการควบคุมซิมการ์ด เพื่อป้องกันการหลอกลวงข้ามพรมแดน ซึ่งเป็นปัญหาที่ได้รับความสนใจจากหลายประเทศในภูมิภาค โดยเฉพาะการใช้งานซิมการ์ดที่ไม่ได้ลงทะเบียนในประเทศแนวเขตชายแดนที่มีการเคลื่อนไหวข้ามแดนบ่อยครั้ง เช่น ไทย – กัมพูชา และ ไทย – เมียนมา
6. ปฏิญญาดิจิทัลกรุงเทพ รับรองปฏิญญาฉบับนี้เพื่อกำหนดทิศทางอนาคตดิจิทัลของอาเซียนที่เน้นความมั่นคงปลอดภัย ไร้รอยต่อ และครอบคลุมทุกภาคส่วน โดยเน้นการขยายการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลในพื้นที่ชนบทและพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงโอกาสทางดิจิทัลได้อย่างเท่าเทียม
การประชุมครั้งนี้ยังได้หารือกับคู่เจรจา เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย สหรัฐอเมริกาและสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) โดยมุ่งส่งเสริมมาตรฐานดิจิทัลและความร่วมมือในด้านต่างๆ เช่น การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล นอกจากนี้ยังเน้นย้ำความสำคัญของการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกเพื่อต่อสู้กับการหลอกลวงออนไลน์ในระดับสากล รวมถึงการพัฒนาแนวทางปฏิบัติที่สามารถใช้ร่วมกันได้ในภูมิภาค
การลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ไทยกับกัมพูชา และไทยกับฟิลิปปินส์ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านดิจิทัลในระดับภูมิภาค
อีกทั้งได้มีลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา และไทยกับฟิลิปปินส์ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านดิจิทัลในระดับภูมิภาค โดยเน้นประเด็นสำคัญ ได้แก่ การพัฒนากำลังคนด้านดิจิทัล ธรรมาภิบาลภาครัฐอิเล็กทรอนิกส์ การป้องกัน และการต่อสู้กับปัญหาการหลอกลวงออนไลน์ ดังนี้
MOU ไทย-กัมพูชา เป็นความร่วมมือด้านเทคโนโลยีดิจิทัลระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงการไปรษณีย์และโทรคมนาคมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ พร้อมทั้งพัฒนาความร่วมมือในสาขาต่างๆ เช่น บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล สินค้าและบริการของรัฐบาลดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล การสร้างโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล การพัฒนากำลังคนด้านดิจิทัล และความปลอดภัยออนไลน์ รวมถึงการป้องกันการหลอกลวงทางดิจิทัล
MOU ไทย-ฟิลิปปินส์ เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันและความเข้าใจซึ่งกันและกัน การส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ธรรมาภิบาลภาครัฐอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ยุทธศาสตร์รัฐบาลดิจิทัลและการใช้ปัญญาประดิษฐ์ ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีอุบัติใหม่ เช่น คลาวด์คอมพิวติ้ง (บริการ การจัดเก็บ ประมวลผลข้อมูล บนระบบออนไลน์ IoT (Internet of Things : อุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ) และข้อมูลขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ผ่านการแลกเปลี่ยนความรู้ ความเชี่ยวชาญ และการฝึกอบรมร่วมกัน
ประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับ
1. ส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือด้านดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียนให้สามารถบรรลุวิสัยทัศน์ของแผนแม่บทอาเซียนด้านดิจิทัล ค.ศ. 2025 (ASEAN Digital Masterplan 2025: ADM 2025) ระยะ 5 ปี (ปี 2564 – 2568) ในการเป็นประชาคมชั้นนำด้านดิจิทัล และกลุ่มประเทศที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยี บริการดิจิทัลและระบบนิเวศที่มีความปลอดภัยและปรับเปลี่ยนได้
2. ส่งเสริมความร่วมมือและพันธมิตรด้านดิจิทัลที่ใกล้ชิดระหว่างอาเซียนกับคู่เจรจา รวมถึงไทยกับต่างประเทศในการพัฒนาความร่วมมือด้านดิจิทัล
3. ส่งเสริมบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศ และการก้าวไปสู่ผู้นำการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ของไทย การส่งเสริมนวัตกรรม ตลอดจนสนับสนุนการเข้าสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
4. ส่งเสริมและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ประเทศไทย ในการแสดงความพร้อมในฐานะการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับสูงในเวทีระหว่างประเทศ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวก บุคลากรและการต้อนรับ เพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ การลงทุน และความเชื่อมั่นต่อต่างชาติ
สำหรับการประชุม ADGMIN ครั้งที่ 6 จะจัดขึ้นที่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามในปี 2569 ซึ่งประเทศ สมาชิกมุ่งมั่นที่จะสานต่อความร่วมมือเพื่อสร้างภูมิภาคดิจิทัลที่เข้มแข็งและยั่งยืน