สพฐ. ประกาศ 245 เขตพื้นที่การศึกษาติดตามเด็กตกหล่น-ออกนอกระบบ ครบ 100%

ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตรโครงการพาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง *(OBEC Zero Dropout) ให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ที่ค้นหาเด็กตกหล่นและเด็กออกจากระบบการศึกษาได้ครบ 100% และเขตตรวจราชการดีเด่นด้านการบริหารจัดการ โดยมีนายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายนิยม ไผ่โสภา ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้บริหาร สพฐ. เข้าร่วม

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้การนำของ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ไม่ได้นิ่งนอนใจเกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาเด็กตกหล่นและเด็กออกจากระบบการศึกษากลางคัน จึงได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดำเนินงานโครงการขับเคลื่อนนโยบายการแก้ปัญหา “เด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษา” และ “เด็กตกหล่น” ให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 นำร่องดำเนินการ 7 จังหวัด และในปี พ.ศ. 2566 ขยายพื้นที่ดำเนินการเป็น 13 จังหวัด ครอบคลุม 4 ภูมิภาค จนเกิดเป็นนโยบาย Thailand Zero Dropout โดยกระทรวงศึกษาธิการได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือมาตรการขับเคลื่อนประเทศไทยเพื่อแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 ร่วมกับ 10 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ในปี พ.ศ. 2568 กระทรวงศึกษาธิการ โดย สพฐ. ได้ต่อยอดต้นทุนการทำงานเดิม พัฒนาเป็นโครงการ “พาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง” OBEC Zero Dropout ขยายผลดำเนินการครบทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ประกาศว่า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่ง จำนวน 245 เขตทั่วประเทศ สามารถค้นหาเด็กตกหล่นและเด็กออกจากระบบกลางคันได้ครบแล้ว 100% จึงได้จัดพิธีมอบใบประกาศนียบัตร ให้กับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต (จำนวน 245 เขต) และผู้อำนวยการ เขตตรวจราชการดีเด่นด้านการบริหารจัดการ (จำนวน 18 เขตตรวจราชการ) เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

การดำเนินงานระยะต่อไป สพฐ. ได้พัฒนาแนวปฏิบัติการจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่นด้วยแนวทาง “1 โรงเรียน 3 รูปแบบ” สำหรับสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในสังกัด สพฐ. เพื่อเอื้อให้สถานศึกษาได้พัฒนานวัตกรรมการศึกษาที่ยืดหยุ่น เพื่อจัดการศึกษาให้เด็กและเยาวชนที่มีเงื่อนไขข้อจำกัดในชีวิต ยังคงอยู่ในระบบการศึกษาที่เหมาะสมและตอบโจทย์ชีวิต ได้แก่ นวัตกรรมโรงเรียนมือถือ (Mobile School) นวัตกรรม 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ ที่ทำให้นักเรียนเรียนรู้ได้ทุกสถานที่ทุกเวลา (Anywhere Anytime) อีกทั้งยังเชื่อมโยงการเรียนรู้กับชุมชน ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ เรียนผ่านการเก็บ Credit Bank ทำให้เรียนไปพร้อมมีรายได้ (Learn to Earn) ตอบโจทย์ชีวิตผู้เรียน ครอบครัวและชุมชน 

ทั้งนี้ เลขาธิการ กพฐ. กล่าวชื่นชมและขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการ “พาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง” (OBEC Zero Dropout) จนประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี นับเป็นการรวมพลังกันในการสร้างความเข้าใจ ความร่วมมือในการขับเคลื่อนแก้ปัญหาเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษาและเด็กตกหล่น ให้ได้รับโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียมในทุกพื้นที่ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้เห็นการดำเนินงานเชิงประจักษ์ในการพาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง ในพื้นที่จังหวัดของทุกท่านในระยะต่อไป เพื่อการยกระดับคุณภาพการศึกษา “เรียนดี มีความสุข” ในภาพรวมของประเทศอย่างยั่งยืน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง