นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมกรอบความร่วมมือระหว่างอาเซียน เชื่อมั่นสร้างประโยชน์กับไทย

การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 46 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง  ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย วันนี้เป็นวันสุดท้าย โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมกรอบการประชุมที่สำคัญ ได้แก่ การประชุมสุดยอดอาเซียน–คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ หรือ GCC ครั้งที่ 2 ร่วมกับผู้นำและผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน และ GCC ประกอบด้วย บาห์เรน, คูเวต, โอมาน, กาตาร์, ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

โดยนายกรัฐมนตรี เสนอแนวทางภายใต้กรอบ “3Ps” ได้แก่ ความร่วมมือเพื่อความเจริญรุ่งเรือง  ยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน รับมือการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าและภาษีของสหรัฐอเมริกา ความร่วมมือระหว่างประชาชนทั้งสองภูมิภาคที่เป็นรูปธรรม และความร่วมมือเพื่อโลก ผลักดันวาระสีเขียว โดยที่ประชุมฯ ให้การรับรองแถลงการณ์ร่วมและปฏิญญาร่วมว่าด้วยความร่วมมือระหว่าง 2 ภูมิภาค ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับไทยในการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนและกับประเทศนอกภูมิภาค

จากนั้น นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ หรือ GCC และ จีน ซึ่งเป็นครั้งแรกของอาเซียน โดยเสนอกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจ “3M” ประกอบด้วย การเสริมสร้างระบบพหุภาคีนิยม ที่เปิดกว้าง โปร่งใส การส่งเสริมความคล่องตัวของทรัพยากร สนับสนุนความร่วมมือด้านการค้าดิจิทัล e-commerce ระหว่างภูมิภาค การอำนวยความสะดวกทางศุลกากร การระดมทรัพยากรเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน  การพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรมในสาขาที่มีศักยภาพสูง รวมทั้งพลังงานสะอาด 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย หรือ IMT-GT ครั้งที่ 16 ร่วมกับประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ ADB โดยที่ประชุมฯ ให้การรับรองแถลงการณ์ร่วมที่เป็นการยืนยันความมุ่งมั่นต่อวิสัยทัศน์ IMT-GT พุทธศักราช 2579  พร้อมส่งเสริมเศรษฐกิจยั่งยืน ขับเคลื่อนการเติบโตด้วยนวัตกรรมดิจิทัลและการรับมือความท้าทายระดับโลก 

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พอใจผลการประชุมสุดยอดอาเซียนตลอดทั้ง 2 วัน เพราะเกิดประโยชน์ต่อประเทศไทย ทั้งด้านการค้า การลงทุน ที่สำคัญอาเซียนเห็นพ้องตั้งคณะทำงาน ASEAN Geo-economics Task Force รับมือผลกระทบนโยบายภาษีสหรัฐฯ อีกทั้งเป็นการแสดงพลังของอาเซียน เพื่อจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างดีที่สุด พร้อมขอให้ประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลไม่ได้ล่าช้าต่อการดำเนินการเกี่ยวกับนโยบายภาษีสหรัฐฯ ซึ่งทุกประเทศยังอยู่ในขั้นตอนรอสหรัฐฯนัดวันเจรจาเช่นเดียวกัน

จากนั้น นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางกลับประเทศไทย โดยจะถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 เวลาประมาณ 20.35 น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง