ปรับจริง บังคับใช้กฎหมาย ปราบปรามบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ไม่จัดเขตปลอดบุหรี่

นางสาวจิตศ์ตราฎ์ หมีทองธนกรณ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ผู้บริหารกรมสนับสนุนบริการสุขภาพและเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ร่วมกันลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและกวดขันการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า และการจัดเขตปลอดบุหรี่ตามกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสถานที่สาธารณะต้องปลอดบุหรี่ รวมถึงร้านอาหาร ผับบาร์ ร้านนวด สปา โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในมาตรการด้านความปลอดภัยและสุขภาพของประชาชนและนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าตามกฎหมายในสังคมไทย

ทั้งนี้ ในการตรวจสถานประกอบการ ร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ ร้านนวดไทย ได้นำสติกเกอร์ห้ามสูบบุหรี่ไปติดภายในสถานประกอบการ  พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการรณรงค์ให้กับนักท่องเที่ยวไม่สูบบุหรี่ เพื่อสุขภาพที่ดีของนักท่องเที่ยวเองและพนักงาน พร้อมทั้งนำสติกเกอร์อนุญาตให้นักท่องเที่ยวสูบบุหรี่ออกและสติกเกอร์ห้ามสูบบุหรี่ ซึ่งไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดออก และนำสติกเกอร์ที่กฎหมายห้ามนำไปติดแทน 

นางสาวจิตศ์ตราฎ์ เปิดเผยภายหลังการตรวจสอบพบสถานประกอบการ การกระทำความผิด ไม่จัดเขตปลอดบุหรี่ตามที่กฎหมายกำหนดรวม 6 ร้าน โทษปรับรายละ 50,000 บาท ทั้งนี้ มอบหมายให้กรมควบคุมโรคดำเนินการกล่าวโทษและปรับต่อไป ส่วนร้านที่ทำถูกกฎหมาย ก็จะมีการส่งทีมสายลับมาติดตามตรวจสอบเป็นระยะ โดยการตรวจสอบสถานประกอบการจะขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ ในกรุงเทพฯ และทั่วประเทศ ซึ่งในพื้นที่ต่างจังหวัดจะมีการสร้างเครือข่ายเยาวชนนักสแกนบุหรี่ไฟฟ้า โดยอยากรณรงค์ให้ผู้ประกอบการร้านอาหารทั้งกลางวันและกลางคืนเห็นถึงความสำคัญของการไม่สูบบุหรี่ ย้ำว่าการสูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า หรือกัญชา จะดำเนินการจับเพราะมีโทษตามกฎหมาย 

นางสาวจิตศ์ตราฎ์ กล่าวว่า การดำเนินงานดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันและควบคุมปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ โดยบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายต่อผู้ใช้และผู้ใกล้ชิด ก่อให้เกิดโรคเรื้อรังและโรคร้ายแรง อาทิ  โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจหลอดเลือดและโรคมะเร็ง

ทั้งนี้ การทำงานร่วมกันระหว่าง กระทรวงสาธารณสุข และ สคบ. มุ่งเน้นให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใสและเป็นธรรม และการลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของภาครัฐในการปกป้องสุขภาพของประชาชนและนักท่องเที่ยวจากภัยของบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งในวันนี้ผลการลงพื้นที่ของกระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการกล่าวโทษกับเจ้าของสถานประกอบการ ผับบาร์ ที่ไม่จัดเขตปลอดบุหรี่ภายในร้าน ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560 โดยมีโทษปรับสูงถึง 50,000 บาท 

กระทรวงสาธารณสุข ได้ขอความร่วมมือประชาชนเป็นหูเป็นตา หากพบการจำหน่ายหรือใช้บุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่สาธารณะ ให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที เพื่อช่วยกันสร้างสังคมที่ปลอดภัย ปลอดบุหรี่ไฟฟ้าและคุ้มครองสุขภาพของคนไทยทุกคน พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ หรือแจ้งเตือนผู้ใช้บริการว่าสถานที่นั้นเป็นเขตปลอดบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า และหากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าตามร้านค้า หรือช่องทางออนไลน์ สามารถแจ้งเบาะแสเพื่อดำเนินคดี ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง