นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เร่งขับเคลื่อน Quick Big Win โครงการ “คนละครึ่ง พลัส” เปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนเตรียมต้อนรับผู้บริโภคช่วงปลายปี โดยรัฐบาลต้องการให้เงินหมุนเร็วถึงมือประชาชนจริง เห็นผลในระยะสั้นทันทีเพื่อฟื้นเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2568 โครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ได้เปิดให้ผู้ประกอบการร้านค้าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม ผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะ ผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะ และร้านค้าที่เป็นนิติบุคคลรายเล็กรายย่อย ที่มีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี โดยสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 ร้านค้าที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งแล้ว สามารถกดปุ่ม “ยอมรับ” ได้ในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ได้ทันที โดยจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอปฯ “ถุงเงิน” เป็นเวอร์ชันล่าสุด ส่วนร้านค้าที่ยังไม่เคยอยู่ในโครงการคนละครึ่ง สามารถลงทะเบียนได้ ด้วยการใช้บัตรประจำตัวประชาชน และรูปถ่ายร้านค้าเพื่อยืนยันว่ามีการค้าขายจริง นำไปยืนยันตัวตนที่สำนักงานเขต หรือกรณีต่างจังหวัดให้นำหลักฐานไปยืนยันตัวตนได้ที่เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ปลัดอำเภอ ปลัดเทศบาล จากนั้นจึงนำหลักฐานการยืนยันตัวตนไปยื่นลงทะเบียนที่ธนาคารกรุงไทย ซึ่งจะใช้เวลาตรวจสอบ 3 วัน ชื่อเจ้าของร้านค้าจะปรากฏในแอปฯ ถุงเงิน และร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ได้ทันที ทั้งนี้สามารถตรวจสอบคุณสมบัติร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ที่ www.คนละครึ่งพลัส.com
กระทรวงการคลัง ได้รายงานความคืบหน้าของการลงทะเบียนผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส จากข้อมูลสะสมถึงวันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2568 เวลา 12.00 น. มีร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ประกอบด้วย
ร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ แบ่งเป็น
1. ร้านค้าที่ลงทะเบียนสำเร็จแล้ว 123,960 ราย เป็นร้านค้ารายเดิม 72,185 ราย และร้านค้ารายใหม่ 51,775 ราย
2. ร้านค้าที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการสมัคร 98,064 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างรอให้ร้านค้าเข้ามากดยอมรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการฯ 91,917 ราย และอยู่ระหว่างรอดำเนินการตรวจสอบ 6,147 ราย
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจและมีคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไขที่โครงการฯ กำหนด สามารถทยอยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้อย่างต่อเนื่อง
ด้านนายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs และ MSME) ที่อยู่ในการส่งเสริมกว่า 1 แสนราย เช่น ธุรกิจค้าปลีก (โชห่วย) 23,932 ราย ธุรกิจแฟรนไชส์ (แฟรนไชส์ซี) มีสาขาทั่วประเทศ 60,497 ราย ธุรกิจบริการ 26,143 ราย และร้านอาหาร Thai SELECT 463 ร้าน จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการในเครือข่ายเข้าร่วมโครงการ คนละครึ่ง พลัส ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับประโยชน์ในส่วนของการเพิ่มรายรับเข้าสู่ธุรกิจ ขณะที่ประชาชนก็จะมีทางเลือกของร้านค้าเพิ่มขึ้นสำหรับการจับจ่ายใช้สอย ทั้งนี้ คาดว่า การจับจ่ายใช้สอยผ่านโครงการฯ จะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 88,000 ล้านบาท
ธนาคารกรุงไทย อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและร้านค้าผู้เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” เปิดจุดบริการพิเศษ ระหว่างวันที่ 18-19 ตุลาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. สามารถเช็กรายชื่อสาขาได้ที่: https://krungthai.com/link/supportbranch-fb โดยให้บริการเฉพาะแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” “ถุงเงิน” และร้านค้าที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ เท่านั้น สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครเป็นร้านค้าถุงเงิน แต่ยังไม่มีบัญชีธนาคารกรุงไทย สามารถทำรายการเปิดบัญชีได้ที่สาขาในห้างสรรพสินค้า
สำหรับประชาชนทั่วไปทั้งที่อยู่ในระบบภาษีและไม่อยู่ในระบบภาษี กระทรวงการคลัง เปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 20 – 26 ตุลาคม 2568 ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” โดยให้ประชาชนเตรียมความพร้อมก่อนลงทะเบียนใน 3 ขั้นตอน ดังนี้
1. ตรวจสอบคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ โดยจะต้องมีบัตรประชาชนสัญชาติไทย อายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
ณ วันที่ลงทะเบียน ไม่ได้รับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568 และไม่ถูกระงับสิทธิ์ ในโครงการคนละครึ่ง เฟส 1–5
2. ดาวน์โหลดหรืออัปเดตแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ดาวน์โหลดได้ฟรีจาก App Store หรือ Play Store และต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นเวอร์ชันล่าสุด
3. สมัครและผูกบัญชี G-Wallet เพื่อเตรียมพร้อมเริ่มใช้สิทธิ์ในวันที่ 29 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568 โดยเปิดแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” > กดเมนู G-Wallet > ดำเนินการผูกบัญชีตามขั้นตอน เตรียมบัตรประจำตัวประชาชน และยืนยันตัวตนผ่านระบบ Krungthai NEXT หรือสแกนใบหน้า
ทั้งนี้โครงการ “คนละครึ่ง พลัส” จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์ จำนวน 20 ล้านสิทธิ์ ซึ่งผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 (ปี 2565) จะแจ้งผลการลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง “ทันที” ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมโครงการฯ สามารถตรวจสอบผลได้ทาง SMS และแอปฯ เป๋าตัง ภายใน 3 วันทำการ โดยจะต้องใช้สิทธิ์ครั้งแรกไม่เกินวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 เวลา 23.00 น. เพื่อไม่ให้ถูกยกเลิกสิทธิ์ และเริ่มใช้สิทธิ์ Food Delivery ในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ในวันที่ 7 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2568 เวลา 06.00 – 21.00 น.
ติดตามข่าวสารและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
1. เว็บไซต์โครงการฯ: ติดตามรายละเอียดโครงการฯ และข้อมูลข่าวสารได้ทาง www.คนละครึ่งพลัส.com
2. ศูนย์ช่วยเหลือสำหรับประชาชน:
2.1 ติดต่อสอบถาม โทร. 0 2111 1122 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
2.2 ตรวจสอบผลการลงทะเบียนหรือวงเงินคงเหลือ โทร. 0 2111 1122 กด 3 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
3. ศูนย์ช่วยเหลือสำหรับร้านค้า:
3.1 ติดต่อเกี่ยวกับรายการรับเงินภาครัฐ และการใช้งานแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” โทร. 0 2111 1122 กด 3 ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
3.2 ตรวจสอบสถานะลงทะเบียนร้านค้า โทร. 0 2111 1122 กด 3 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
4. สอบถามข้อมูลโครงการฯ:
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 08-5842-7102, 08-5842-7103, 08-5842-7104, 08-5842-7105, 08-5842-7106, 08-5842-7107, 08-5842-7108, 08-5842-7109 ตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
นอกจากนี้ในวันที่ 18 ตุลาคม 2568 นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะลงพื้นที่ติดตามโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” พร้อมเยี่ยมเยียนผู้ประกอบการร้านค้า ณ ตลาดเทศบาลเมืองปทุมธานี