จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังตึงเครียดและฝ่ายไทยยังต้องตอบโต้การโจมตี ของฝ่ายกัมพูชาตลอดแนวชายแดน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เชิญนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เข้าหารือเนื่องจากยังมีวาระที่ต้องหารือ ในหลายเรื่อง ทั้งกรณีการเสนอการสกัดกั้นการส่งยุทธปัจจัยทางทะเล เรื่องการตรวจยึดระบบขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถียุคที่ 5 รุ่น GAM – 102 LR สัญชาติจีน ที่บริเวณเนิน 500 รวมถึงสายลับและทหารรับจ้างของฝ่ายกัมพูชาที่แทรกซึมเข้ามาในไทย ซึ่งเรื่องนี้ได้ให้ติดตามและเฝ้าระวังพื้นที่อยู่แล้ว ส่วนการช่วยเหลือคนไทยในกัมพูชาที่ต้องการเดินทางกลับประเทศโดยเครื่องบิน นายกรัฐมนตรียืนยันว่าพร้อมดำเนินการทุกการช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับคนไทยทุกหน่วยงานสามารถทำได้ทันที และพร้อมให้เครื่องบินพาณิชย์ไปรับหากเป็นสิ่งที่ช่วยให้คนไทยได้รับความสะดวก ขณะนี้ได้รับรายงานว่า มีคนไทยติดค้างอยู่หลายพันคน ก็จะดำเนินการเต็มที่
ทั้งนี้ วันที่ 16 ธันวาคม 2568 การประชุม สมช. เพื่อพิจารณาและควบคุมมาตรการจำกัดการส่งยุทธภัณฑ์ต่างๆ ในลักษณะทางอ้อมไปยังประเทศกัมพูชาซึ่งถือเป็นวาระสำคัญ ส่วนการปิดด่านพรมแดนประเทศไทย ได้ปิดในส่วนของประเทศไทยเท่านั้น สำหรับกรณีที่สำนักงานสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา เรียกร้องให้หลายประเทศที่มีความรุนแรงรวมถึงประเทศไทยและกัมพูชา หยุดยิง เห็นว่าประเทศไทยไม่จำเป็นต้องชี้แจงต่อประชาคมโลก เนื่องจากมีหลักฐานภาพที่ชัดเจนว่ามีการโจมตีด้วยจรวด BM-21 ยิงเข้าสู่ฝั่งไทยเป็นชุดอย่างต่อเนื่องและรุนแรง ในขณะที่ฝ่ายไทยยังไม่เคยกระทำการใดๆ ต่อกัมพูชาเลย
ขณะที่ความคืบหน้าการปฏิบัติการของฝ่ายไทย พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 เกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบว่า ปัจจุบันสามารถผลักดันทหารกัมพูชาออกจากบริเวณพื้นที่ตัวปราสาทตาควายและเข้าควบคุมพื้นที่ได้แล้ว ขณะที่ที่หมายสำคัญโดยรอบโดยเฉพาะเนิน 350 และพื้นที่สูงข่มในบริเวณใกล้เคียงยังคงอยู่ระหว่างการปฏิบัติการเข้าควบคุมพื้นที่ตามแผนดำเนินกลยุทธ์ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชาได้ตอบโต้ด้วยการใช้อาวุธทุกชนิดระดมโจมตีพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งทำลายกำลังฝ่ายไทยและพยายามช่วงชิงพื้นที่คืนทำให้สถานการณ์ยังไม่อาจวางใจได้ และยังต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงในการปฏิบัติการ ทั้งนี้ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบกได้ติดตามการปฏิบัติการสำคัญในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้หน่วยที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการด้วยความรอบคอบ เพื่อป้องกันลดการบาดเจ็บและความสูญเสียของกำลังพลให้ได้อย่างดีที่สุด
นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงต่อประชาคมระหว่างประเทศ ในประเด็นการปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่โบราณสถาน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาได้กล่าวหาว่าฝ่ายไทย ปฏิบัติการทางทหารโจมตีสถานที่ที่เป็นโบราณสถานต่างๆ ซึ่งฝ่ายไทยมีหลักฐานชัดเจนว่ากองทัพกัมพูชา ใช้ปราสาทและโบราณสถานต่างๆ ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นฐานปฏิบัติการทางทหาร ไทยจึงมีทางเลือกเดียวคือใช้สิทธิ์ในการปกป้องตนเอง การกระทำดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชาถือเป็นการละเมิดอนุสัญญากรุงเฮก ว่าด้วยการคุ้มครองทรัพย์สินทางวัฒนธรรมในกรณีเกิดความขัดแย้งทางอาวุธ (ค.ศ. 1954) และอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ (ค.ศ. 1972) ทั้งนี้ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้เรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมกันปกป้องทรัพย์สินทางวัฒนธรรม บริเวณชายแดน ซึ่งพบว่าฝ่ายกัมพูชายังคงบิดเบือนข้อมูลดังกล่าว แสดงความไม่จริงใจ ไทยจึงขอเรียกร้องให้กัมพูชายุติการใช้พื้นที่โบราณสถานเพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร และยุติการบิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้
นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ระบุว่า กรณีปราสาทตาควายของไทยได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ข้อเท็จจริงคือไม่ควรมีโบราณสถานแห่งใดในโลกนี้ได้รับความเสียหายจากสงคราม โดยเหตุนี้ประชาคมโลกหรือนานาชาติจึงมีกติการ่วมกันที่จะไม่ใช้โบราณสถานเป็นฐานที่มั่นหรือกองกำลังทางทหาร หรือมีการปฏิบัติการใดๆ ในการสงคราม ที่จะใช้โบราณสถานเป็นที่มั่น สำหรับปราสาทตาควายนั้น จากข้อเท็จจริงเป็นที่ทราบกันดีว่ากองกำลังทหารจากกัมพูชาได้ใช้เป็นที่มั่น ซึ่งเท่ากับกัมพูชาได้ละเลยกติกาที่ยอมรับกันในสากล เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เป็นธรรมดาที่ทางฝ่ายไทยต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งเป็นไปตามความจำเป็น และยากที่จะหลีกเลี่ยงความเสียหายได้ ทั้งนี้ยืนยันสามารถบูรณะปราสาทตาควายหรือปราสาทใดๆ ที่เป็นของไทยอยู่ในพื้นที่ประเทศไทยได้อย่างแน่นอนมีตัวอย่างประจักษ์พยาน เช่น การบูรณะปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทหินพิมาย และปราสาทสด๊กก๊อกธม ซึ่งเป็นปราสาทที่มีความสลับซับซ้อน มีลวดลายอันวิจิตรมากกว่าปราสาทตาควาย กรมศิลปากรก็สามารถซ่อมกลับมาได้
ส่วนกรณีการควบคุมการส่งออกน้ำมันและยุทธปัจจัยไปยังกัมพูชา พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า วันที่ 15 ธันวาคม 2568 กองทัพภาคที่ 2 ได้เริ่มบังคับใช้คำสั่ง การควบคุมการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงและยุทธภัณฑ์ที่จุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก ซึ่งเป็นพื้นที่ในจังหวัดอุบลราชธานีที่อยู่ติดกับ สปป.ลาว เนื่องจากสืบทราบว่ามีการนำน้ำมันและยุทธภัณฑ์เหล่านั้น ส่งต่อไปยังกองทัพกัมพูชาเพื่อนำมาใช้ในการสู้รบกับประเทศไทย ขอย้ำว่าไทยไม่มีเจตนารมณ์ที่จะสร้างผลกระทบต่อ สปป.ลาว ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาเท่านั้น และต้องขออภัยพี่น้องชาว สปป.ลาว ที่ได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ โดยไทยยืนยันว่าจะดำเนินตามมาตรการนี้ให้รวดเร็ว และเกิดผลกระทบต่อ สปป.ลาว ให้น้อยที่สุด
อีกทั้ง นางมาระตี ยืนยันว่าประเทศไทยไม่ต้องการยกระดับสถานการณ์ การดำเนินการต่างๆ ของไทย เป็นไปเพื่อปกป้องอธิปไตยและลดภัยคุกคามเท่านั้น โดยเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ ไทยจะป้องกันไม่ให้การดำเนินการของไทยซึ่งเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนส่งผลกระทบต่อพลเรือน และภูมิภาคในวงกว้าง ไทยยึดมั่นและปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS) ค.ศ. 1982 ที่ให้ความสำคัญอันดับต้นกับการรักษาเสรีภาพในการเดินเรือ และไม่ประสงค์ให้ส่งผลกระทบต่อการค้า การคมนาคม หรือห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งไทยยึดหลักนี้อย่างเคร่งครัดเพื่อสื่อสารต่อประเทศที่สามและประชาคมต่างประเทศ
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ ยืนยันว่า กองทัพเรือไม่มีการปิดกั้นน่านน้ำไทย และไม่มีเจตนาเรื่องนี้ การดำเนินการของไทยเป็นไปเพื่อสกัดกั้นการส่งกำลังบำรุงและยุทธปัจจัยไปสู่กัมพูชาเท่านั้น เนื่องจาก ที่ผ่านมามีหลายบริษัทเดินเรือของไทยที่ใช้เรือไทยลำเลียงน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปในพื้นที่กัมพูชา และกองทัพเรือพยายามพูดคุยกับบริษัทเหล่านั้นเพื่อขอความร่วมมือ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้จะมีการพิจารณาในการประชุม สมช.อีกครั้ง กองทัพเรือยืนยันว่าจะใช้มาตรการเคอร์ฟิวให้สั้นที่สุด เพื่อลดความเดือดร้อนและเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งปัจจุบันยังพบกลุ่มคนที่ไม่หวังดีเข้ามาในพื้นที่จังหวัดตราด ส่วนประชาชนที่จำเป็นต้องเดินทางในช่วงเวลาเคอร์ฟิวสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ประสานจุดตรวจต่างๆ ได้
นาวาเอก นรา คุณโฑถม ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า การประกาศพื้นที่เสี่ยงภัยสูงเป็นการจำกัดการลำเลียงน้ำมันและยุทธภัณฑ์ เฉพาะเรือสัญชาติไทยเพื่อความปลอดภัย ไม่ใช่การปิดอ่าวไทย และไม่กระทบต่อเรือต่างชาติหรือประเทศที่สาม พร้อมขอความร่วมมือสื่อมวลชนหลีกเลี่ยงการใช้คำว่า ปิดอ่าวไทย
นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กรณีที่มีกระแสข่าว นำเสนอเกี่ยวกับการส่งออกน้ำมันผ่านทางด่านช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ไปยัง สปป.ลาว ว่าอาจมีการลักลอบส่งต่อน้ำมันให้ประเทศกัมพูชาหรือไม่นั้น กรมธุรกิจพลังงานเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด ทั้งข้อมูลปริมาณการส่งออกในอดีตเทียบกับปัจจุบัน เส้นทางในการส่งออก รวมถึงได้กำชับผู้ค้าน้ำมันทุกรายในการปฏิบัติตามมาตรการห้ามส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงในทุกด่านตลอดแนวชายแดน ไทย – สปป.ลาว ที่อาจส่งต่อไปยังกัมพูชาได้ ส่วนที่ปรากฏภาพรถน้ำมันที่ตกค้างตามแนวชายแดนที่เกิดขึ้นนั้น เป็นผลมาจากมาตรการคุมเข้มในการส่งออกน้ำมัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการบริหารจัดการและประสานกับผู้ค้าน้ำมันเพื่อตรวจสอบเส้นทางการขนส่ง และน้ำมันจะต้องถูกส่งไปยังจุดหมายปลายทางที่กำหนดใน สปป.ลาว เท่านั้น นอกจากนี้ กรมธุรกิจพลังงานได้ติดตามตรวจสอบไม่ให้มีการส่งออกน้ำมันทางเรืออย่างเข้มงวด เพื่อเป็นการจำกัดการส่งออกน้ำมันให้ครอบคลุมทุกช่องทาง
ทั้งนี้ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ ว่าพบการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังประเทศกัมพูชานั้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่ม ขอยืนยันว่ากลุ่ม ปตท. ไม่มีการส่งออกน้ำมันไปที่ประเทศกัมพูชา โดยมีนโยบายงดส่งออกตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2568 และถือปฏิบัติมาตั้งแต่เกิดสถานการณ์ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงพลังงาน ในการตระหนักถึงความมั่นคงของประเทศและประชาชนคนไทยเป็นสำคัญ ขณะที่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า บริษัทฯ ไม่มีการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศกัมพูชา โดยไม่มีการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งทางรถและทางเรือ สำหรับการจัดส่งน้ำมันไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการดำเนินการตามคำสั่งซื้อและเอกสารทางการค้าอย่างถูกต้องครบถ้วน โดยมีจุดหมายปลายทางตามที่ระบุไว้เท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามมาตรการของหน่วยงานภาครัฐของประเทศนั้นๆ ที่กำหนดให้การนำเข้า–ส่งออกและการขนส่งผ่านแดนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องเป็นไปตามใบอนุญาตและพิธีการศุลกากรอย่างเคร่งครัด และห้ามการส่งต่อไปยังประเทศที่สาม
สำหรับสถานการณ์การปะทะในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พันเอก ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ปัจจุบันทหารกัมพูชายังคงโจมตีเข้ามาในพื้นที่พลเรือนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บและสูญเสียชีวิต ส่งผลให้ทางอำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งพบการโจมตีเข้ามาบ่อยครั้ง ได้ออกประกาศเตือนประชาชนในการเข้าพื้นที่ที่มีการปะทะโดยเด็ดขาด และจากการสืบทราบ พบว่าฝ่ายกัมพูชาไม่มีการหยุดใช้ยุทธวิธีโจมตีพื้นที่พลเรือน เพื่อสร้างความหวาดกลัวและความปั่นป่วน จึงขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของส่วนราชการ ทั้งนี้กองทัพไทย เร่งสร้างความเข้าใจ ยุทธปัจจัยทหารกัมพูชา ต้องถูกตัดรอน ไม่ให้เป็นภัยคุกคาม หากสถานการณ์ยืดเยื้อจะยิ่งสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชน 2 ประเทศ ซึ่งประเทศไทย ถูกรุกล้ำอธิปไตย ความมุ่งหมายหลัก คือยึดคืนและสถาปนาแนวเขตแดนไทยที่เราถูกรุกล้ำ และทำลายขีดความสามารถของทหารกัมพูชา ที่เป็นภัยคุกคามต่อกำลังพลและความปลอดภัยของประชาชนให้หมดสิ้นไป
พลเรือตรี สุรสันต์ กล่าวว่า ตลอดทั้งวันฝ่ายกัมพูชาได้ระดมยิงอาวุธหนักโจมตีเข้ามาในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี สุรินทร์ และศรีสะเกษ ทำให้ฝ่ายไทย จำเป็นต้องตอบโต้ พร้อมกันนี้ ได้มีคำสั่งให้อพยพประชาชนเพิ่มเติมในพื้นที่อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกับประเทศกัมพูชา เข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยหรือศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อดูแลความปลอดภัย เนื่องจากฝ่ายกัมพูชายังคงตั้งใจโจมตีเป้าหมายพลเรือนไทย
นายศดิศ ณิชกุล นายอำเภอขุนหาญ ผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อำเภอขุนหาญ ออกประกาศขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย พักอาศัยในศูนย์อพยพ ศูนย์พักพิงชั่วคราวหรือสถานที่ปลอดภัย จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยให้อพยพเฉพาะพื้นที่ ตำบลบักดอง กันทรอม ห้วยจันทร์ และพราน (ยกเว้นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง) หากผู้ใดฝ่าฝืนประกาศต้องระวางโทษตามมาตรา 52 พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์ยังไม่มีความปลอดภัย มีผลตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2568 จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ด้าน พลตํารวจตรี ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงกรณีที่ เฟซบุ๊ก สถานีตำรวจภูธรพลกรัง จังหวัดนครราชสีมา แจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังนักรบรับจ้างต่างชาติในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า เกิดจากการประชุมหน่วยงานความมั่นคงทางการข่าวในจังหวัดนครราชสีมา และได้แจ้งไปยังสถานีตำรวจแต่ละแห่งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นการบูรณาการด้านการข่าวระหว่างหน่วยงานความมั่นคง และขอความร่วมมือประชาชน ร่วมกันสังเกตและตรวจสอบ คน กลุ่มบุคคล ยานพาหนะ และโดรน ต้องสงสัยหากพบแจ้ง 191 และ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนการคัดกรองบุคคลเข้าประเทศ สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) มีการดําเนินการอย่างเข้มข้น ทั้งทางอากาศ ในสนามบินนานาชาติหลัก 5 แห่ง ของไทย รวมทั้งบูรณาการกับกําลังฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง และตํารวจในพื้นที่ระมัดระวังป้องกันชาวต่างชาติที่ไม่หวังดีเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทยทั้งทางน้ำ พื้นดิน และช่องทางธรรมชาติต่าง ๆ ซึ่งเฉพาะเดือนธันวาคม 2568 ไม่อนุญาตให้ชาวกัมพูชาเข้าราชอาณาจักร 78 คน และบุคคลที่เสี่ยงเป็นนักรบรับจ้าง 128 คน








