ธนาคารออมสินออกมาตรการเฉพาะกิจ ยกหนี้ปิดบัญชีทหาร–ตชด. ที่เสียชีวิตจากเหตุชายแดนไทย–กัมพูชา ครอบคลุมถึงทายาท พร้อมพักหนี้ผู้อพยพ 3 เดือน ไม่คิดดอกเบี้ย

นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียต่อกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของประเทศ รัฐบาลได้เร่งบูรณาการความช่วยเหลือผ่านมาตรการด้านการเงินและสังคมอย่างเร่งด่วน

โดย ธนาคารออมสิน ได้ออกชุดมาตรการเฉพาะกิจ ยกหนี้ปิดบัญชีสินเชื่อเป็นกรณีพิเศษ ให้แก่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และกำลังพลหน่วยอื่นที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2568 เป็นต้นมา

มาตรการยกหนี้ดังกล่าว ครอบคลุมถึงบัญชีสินเชื่อของทายาท 3 ลำดับ ได้แก่ บิดามารดา คู่สมรส และบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงการมอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวกำลังพลที่เสียชีวิต ตลอดจนกำลังพลและพลเรือนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ เพื่อเชิดชูเกียรติในความเสียสละ และเป็นขวัญกำลังใจให้ครอบครัวผู้สูญเสีย

ขณะเดียวกัน สำหรับประชาชนผู้อพยพที่ได้รับผลกระทบ ไม่สามารถเข้าพื้นที่ทำมาหากินและขาดรายได้ในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว ธนาคารออมสินได้ออกมาตรการพักหนี้ โดยให้พักชำระเงินต้นและไม่คิดดอกเบี้ย สำหรับลูกหนี้สินเชื่อธนาคารออมสินทุกประเภท รวมถึงสินเชื่อองค์กรชุมชน ที่มีภูมิลำเนา ที่อยู่อาศัย หรือสถานที่ประกอบอาชีพอยู่ในพื้นที่ภัยพิบัติตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

มาตรการพักหนี้ดังกล่าว กำหนดให้พักชำระหนี้เป็นระยะเวลา 3 งวด หรือ 3 เดือน โดยไม่ถือเป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และคงชั้นหนี้เดิมก่อนเข้าร่วมมาตรการ ทั้งนี้ ธนาคารจะยกดอกเบี้ยทั้งหมด ส่วนเงินต้นที่พักไว้จะถูกรวมไปชำระในงวดสุดท้าย เมื่อครบกำหนดระยะเวลามาตรการ

ในกรณีที่สัญญาสินเชื่อครบกำหนดและลูกหนี้ไม่สามารถชำระเงินต้นส่วนที่พักไว้ได้ สามารถติดต่อธนาคารเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ได้ในภายหลัง โดยผู้ที่เข้าหลักเกณฑ์สามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา ศูนย์พักพิงของจังหวัดที่มีการจัดทีมอำนวยความสะดวก และผ่านแอปพลิเคชัน MyMo ภายในวันที่ 31 มกราคม 2569

รัฐบาลมุ่งดูแลทั้งกำลังพลที่ยังปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ครอบครัวทหารกล้าที่สละชีวิตเพื่อชาติ และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และหวังให้สถานการณ์คลี่คลายกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง