อย.แนะ‼️คนไทยใช้เกลือบริโภคและผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสเสริมไอโอดีน พิชิตโรคขาดสารไอโอดีน

นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า 25 มิถุนายน ของทุกปีเป็น “ #วันไอโอดีนแห่งชาติ ” ในโอกาสที่สภาการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนนานาชาติ (International Council for Control of Iodine Deficiency Disorders, ICCIDD) ได้ทูลเกล้าถวายเหรียญทอง ICCIDD แด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2540

เนื่องจากพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณในการวินิจฉัยปัญหา และพระราชทานแนวทางการควบคุมป้องกันโรคขาดสารไอโอดีน อันเป็นหลักชัยให้พสกนิกรไทยรวมพลังร่วมใจขจัดภัยโรคขาดสารไอโอดีนให้ลดน้อยลงจนอยู่ในระดับที่ควบคุมได้จนเป็นที่ประจักษ์แก่ประชาคมโลก

ไอโอดีน คือ แร่ธาตุตามธรรมชาติ พบมากในอาหารทะเล เช่น ปลาทะเล กุ้ง หอย ปู และสาหร่ายทะเล เป็นสารอาหารซึ่งใช้สร้างไทรอยด์ฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและการพัฒนาสมองของทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ รวมถึงการเสริมสร้างสติปัญญา ดังนั้น ไอโอดีนจึงเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งปริมาณไอโอดีนที่ต้องการต่อวันสำหรับเด็ก ประมาณ 90 – 120 ไมโครกรัม

ผู้ใหญ่ทั่วไป ประมาณ 150 ไมโครกรัม และหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรจะมีความต้องการที่มากขึ้นประมาณ 200 ไมโครกรัมต่อวัน เนื่องจากหากทารกขาดสารไอโอดีนจะส่งผลให้สมองเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ระดับสติปัญญาจะลดลง และอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้ทารกเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์ หรือพิการ หรือปัญญาอ่อนได้ ส่วนผู้ใหญ่อาจเป็นโรคคอพอก เชื่องช้า ผิวหนังแห้ง และท้องผูก

ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยได้รับไอโอดีนอย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงได้น้อมนำพระราชดำริในการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคขาดสารไอโอดีนมาดำเนินมาตรการแก้ปัญหาโรคขาดสารไอโอดีนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารที่ต้องเสริมสารไอโอดีนจำนวน 4 ฉบับ ได้แก่ เกลือบริโภค น้ำปลา น้ำเกลือปรุงอาหาร และผลิตภัณฑ์ปรุงรสที่ได้จากการย่อยโปรตีนของถั่วเหลือง รวมทั้งร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพัฒนาสถานที่ผลิตเกลือบริโภค และผลิตภัณฑ์ปรุงรสที่เสริมไอโอดีน

พร้อมทั้งติดตาม ตรวจสอบ เฝ้าระวังคุณภาพหรือมาตรฐานของเกลือบริโภคและผลิตภัณฑ์ปรุงรสที่เสริมไอโอดีน เพื่อให้ประชาชนในทุกครัวเรือน ทุกเพศทุกวัยได้รับสารไอโอดีนจากผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด

ขอให้ผู้บริโภคเลือกซื้อและใช้เกลือเสริมไอโอดีน หรือผลิตภัณฑ์ปรุงรสเสริมไอโอดีน เช่น น้ำปลา ซอสถั่วเหลืองที่มีคุณภาพในการปรุงอาหาร ซึ่งดูได้จากฉลากผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่ามีการเสริมไอโอดีน และต้องมีชื่อที่อยู่ของผู้ผลิตชัดเจน และมีเลข อย. บนฉลากด้วย ซึ่งการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมไอโอดีนร่วมกับการกินอาหารที่มีไอโอดีนตามธรรมชาติ จะช่วยให้ร่างกายได้รับไอโอดีนอย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยไม่จำเป็นต้องรับประทานเกลือหรือเครื่องปรุงรสที่มากกว่าปกติ หรือรับประทานอาหารที่มีรสชาติเค็มมาก

ข้อมูล: https://bit.ly/3vWm2qv

ที่มา:กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

ข่าวที่เกี่ยวข้อง