นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้มีการประชุมร่วมกับทุกหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม เพื่อเตรียมความพร้อมการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในวันที่ 11-17 เมษายน 2568 เพื่อให้การเดินทางของประชาชนได้รับความสะดวก ปลอดภัยตลอดเส้นทางและมีราคาค่าโดยสารที่เหมาะสม สำหรับราคาตั๋วเครื่องบินที่มีราคาสูงได้สั่งการให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ติดตามและลงพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับให้หารือกับ 6 สายการบิน เพื่อร่วมกัน สนับสนุนมาตรการแก้ไขปัญหาตั๋วโดยสารมีราคาแพง เนื่องจากเป็นช่วงที่มีปริมาณความต้องการเดินทางสูง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2568 ประกอบด้วย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รวมถึงสายการบินในสมาคมสายการบินประเทศไทย ได้แก่ บางกอกแอร์เวย์ส, ไทยแอร์เอเชีย, นกแอร์, ไทยไลอ้อนแอร์ และไทยเวียตเจ็ท มีจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้นรวม 124 เที่ยวบิน และมีที่นั่งเพิ่มขึ้นรวม 25,000 ที่นั่ง พร้อมกับลดราคาตั๋วเครื่องบินลง 30% จากราคาเพดานในเส้นทางภายในประเทศที่ได้รับความนิยม
- จำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้นรวม 124 เที่ยวบิน 11 เส้นทาง ประกอบด้วย กรุงเทพฯ-ภูเก็ต, กรุงเทพฯ-เชียงใหม่, กรุงเทพฯ-กระบี่, กรุงเทพฯ-สมุย, กรุงเทพฯ-นครพนม, กรุงเทพฯ-อุดรธานี, กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี, กรุงเทพฯ-เชียงราย, กรุงเทพฯ-ขอนแก่น, กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ และกรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช
- เริ่มจำหน่ายในวันที่ 11-20 มีนาคม 2568 ผ่านทางช่องทางของสายการบินโดยตรง ได้แก่ เว็บไซต์, call center และเคาน์เตอร์ขายตั๋ว
ตัวอย่างราคาตั๋วที่ลดลง 30% อาทิ เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ที่มีเพดานราคาอยู่ที่ 5,000 บาท ในช่วงเทศกาล จะลดลงเหลือไม่เกิน 3,500 บาท ทั้งนี้ เที่ยวบินพิเศษที่เพิ่มขึ้นในช่วงดังกล่าว จำนวนที่นั่งจะขึ้นอยู่กับความจุของแต่ละสายการบิน โดยสายการบินไทยแอร์เอเชียจะมีจำนวนที่นั่งมากที่สุด ประมาณ 10,000 ที่นั่ง ส่วนที่เหลือจะกระจายไปยังสายการบินอื่นๆ และการบินไทยยังได้ปรับขนาดเครื่องบินเป็นลำตัวกว้าง ใน 3 เส้นทางหลัก คือ กรุงเทพฯ-ภูเก็ต กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ-กระบี่ เพื่อรองรับมาตรการลดราคาตั๋ว 30% จำนวน 1,228 ที่นั่ง
นายสุริยะ ได้สั่งการให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.), กรมท่าอากาศยาน (ทย.) และ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จํากัด (บวท.) และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว พร้อมเน้นย้ำว่า ห้ามมีผู้โดยสารตกค้างอย่างเด็ดขาด โดยขอให้ผู้โดยสารวางแผนการเดินทางได้ล่วงหน้าเพื่อการเดินทางที่สะดวกและคุ้มค่า
นอกจากนี้ ยังสั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพิ่มเที่ยวรถไฟ เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในเส้นทางปกติและรถพิเศษเสริม 5 เส้นทาง รวมไป-กลับ 26 ขบวน ได้แก่ กรุงเทพอภิวัฒน์-เชียงใหม่ อุบลราชธานี อุดรธานี ศิลาอาสน์ และยะลา เบื้องต้นคาดว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีประชาชนเดินทางด้วยรถไฟรวมประมาณ 758,024 คน-เที่ยว
มอบหมายให้ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เสริมรถโดยสารไม่ประจำทางอีก 1,000 คัน ซึ่งจะรองรับผู้โดยสารอีก 100,000 คน ประจำสถานีขนส่งต่างๆ ให้สามารถรองรับการเดินทางของประชาชนให้มีความเหมาะสมทุกจุด ในวันที่ 11 เมษายน 2568 คาดจะมีจำนวนผู้ใช้บริการหนาแน่นสูงสุดประมาณ 130,000 คนพร้อมกับเปิดให้ประชาชนทดลองใช้ M6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา (ช่วงหินกอง-เลี่ยงเมืองนครราชสีมา)ระยะทาง 167 กิโลเมตร โดยช่วงหินกอง-ปากช่อง ให้เดินรถทางเดียวโดยสลับเป็นเดินรถทางเดียวขาออกช่วงต้นเทศกาลและเดินรถทางเดียวขาเข้าช่วงปลายเทศกาล และ M81 บางใหญ่-นครปฐม-กาญจนบุรี ระยะทาง 96.41 กิโลเมตร รวมทั้งประชาสัมพันธ์แนะนำให้ประชาชนใช้ถนนสายรองของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท เพื่อลดปริมาณจราจรที่หนาแน่นของถนนสายหลัก
ส่วนด้านมาตรการและแผนรองรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางบนทางพิเศษ 5 เส้นทาง ได้แก่ 1. ทางพิเศษบูรพาวิถี 2. กาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2568 3. ทางพิเศษศรีรัช 4. เฉลิมมหานคร และ 5.อุดรรัถยา ยกเว้นการจัดเก็บค่าผ่านทางระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2568 รวมทั้งยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางบนมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง ได้แก่ M7 (กรุงเทพฯ–บ้านฉาง) และ M9 (สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ถนนกาญจนาภิเษก ตอนบางปะอิน-บางพลี และตอนพระประแดง-บางแค ช่วงพระประแดง-ต่างระดับบางขุนเทียน) ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2568
สำหรับมาตรการขนส่งสาธารณะได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานในสังกัดอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชน และจัดบริการขนส่งสาธารณะให้เพียงพอต่อความต้องการ เข้มงวดความปลอดภัย โดยเฉพาะอุบัติเหตุระบบขนส่งสาธารณะต้องเป็นศูนย์
กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้สั่งการให้ออกมาตรการกรณีรถโดยสารไม่ประจำทางระยะเกินกว่า 400 กิโลเมตร จะต้องจัดให้มีคนขับประจำรถโดยสารจำนวน 2 คน หรือหากมีพนักงานขับรถเพียงคนเดียว จะต้องมีการระบุจุดพักหรือระยะเวลาการจอดพักรถไม่น้อยกว่า 30 นาที ทุก ๆ 4 ชั่วโมง และรถโดยสารไม่ประจำทาง จำนวน 21 ที่นั่ง ต้องมีผู้บริการอย่างน้อย 1 คน
- โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งหลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าในช่วงเทศกาล รวมทั้งหลีกเลี่ยงการจอดรถทิ้งไว้บนไหล่ทาง เพื่อบรรเทาปัญหาด้านการจราจรและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
- ผู้ประกอบการขนส่งที่มีการติดตั้งระบบ Global Positioning System (GPS) ให้กำกับ ติดตามการใช้ความเร็วของรถบรรทุกอย่างต่อเนื่องผ่าน Application DLT- GPS และแจ้งเตือนเมื่อพบว่ามีการใช้ความเร็วเกินกำหนด
- กำชับผู้ประกอบการที่ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงให้วางแผนการรับ-ส่งสินค้าไม่ให้กระทบต่อการเดินทางของประชาชน ซึ่งกองบังคับการตำรวจทางหลวงจะออกประกาศห้ามรถบรรทุกวิ่งบนถนนบางสายในช่วงระหว่างวันที่ 11-13 เมษายน 2568 และวันที่ 15-17 เมษายน 2568
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การ นำของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจเดินหน้าผลักดันให้การท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ และมุ่งยกระดับให้ปี 2568 เป็น “ปีทองแห่งการท่องเที่ยวไทย” ที่เดินทางได้ตลอดปี ไม่มีโลว์ซีซั่น เพื่อกระจายรายได้สู่เมืองหลักและเมืองรอง สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและเพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพและความปลอดภัย ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพเพิ่มมูลค่าการใช้จ่ายต่อคนให้มากขึ้น
“เทศกาลสงกรานต์” เป็นหนึ่งในเทศกาลที่ดึงดูดนักเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียจำนวนมากเดินทางมาเล่นสงกรานต์ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา อย่างเนืองแน่นทุกปี จากข้อมูลล่าสุดพบว่า
ยอดจองห้องพักโรงแรมในจังหวัดสงขลามีการจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์และอินโดนีเซีย โรงแรมบางแห่งก็ปิดรับจองไปแล้ว โดยคาดว่าเมื่อใกล้ถึงเทศกาลสงกรานต์ห้องพักโรงแรมจะถูกจองเต็มทั้งหมดเกือบ 2 หมื่นห้อง คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินกว่าพันล้านบาท
นายอนุกูล กล่าวด้วยว่า จุดขายที่สำคัญในเทศกาลสงกรานต์คือ งานหาดใหญ่มิดไนท์สงกรานต์ มีกิจกรรมการเล่นน้ำสงกรานต์ในยามค่ำคืน ซึ่งนักท่องเที่ยวชื่นชอบเป็นอย่างมาก พร้อมมีกิจกรรมเสริมอื่นๆ อีกมากมายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันจัดงานเพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว ในส่วนของสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยว เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่อำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีความคุ้นเคยรู้จักพื้นที่ ทำให้ทราบว่าเหตุการณ์ไม่สงบที่เกิดขึ้นอยู่ห่างจากจังหวัดสงขลาและไม่ได้มีผลกระทบใดๆ
เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ นโยบายนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (คบต.) ครั้งที่ 3/2568 มีมติผ่อนผันให้แรงงาน 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) สามารถเดินทางกลับประเทศเพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์ได้ โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมขออนุญาตกลับเข้ามาในราชอาณาจักร (Re-Entry Permit) เพื่อสนับสนุนความสัมพันธ์ ด้านแรงงานระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แรงงานข้ามชาติ ที่ต้องการเดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวและร่วมงานประเพณีสงกรานต์ในปีนี้
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า แรงงานข้ามชาติเป็นกำลังสำคัญของเศรษฐกิจไทย การผ่อนผันนี้ถือเป็นการให้สิทธิ์และสวัสดิการที่เหมาะสม เพื่อให้แรงงานกลับมาทำงานในไทยด้วยขวัญกำลังใจที่ดีขึ้นและรัฐบาลต้องการให้แรงงานทุกคนได้รับโอกาสดีๆ กลับบ้านไปหาครอบครัวในช่วงสงกรานต์ และกลับมาทำงานได้ตามปกติ จึงกำหนดช่วงเวลาผ่อนผัน 1 เมษายน – 15 พฤษภาคม 2568 โดยมีรายละเอียดของมาตรการผ่อนผัน ดังนี้
- แรงงานกัมพูชา ลาว และเมียนมา ที่มีใบอนุญาตทำงานถูกต้อง สามารถเดินทางออกและกลับเข้า
ไทยได้ โดยไม่ต้องยื่นขอ Re-Entry Permit - ช่วงเวลาที่ได้รับการผ่อนผัน 1 เมษายน–15 พฤษภาคม 2568
- หากเดินทางกลับไทย หลังวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 จะไม่ได้รับสิทธิผ่อนผัน และต้องดำเนินการขออนุญาตใหม่ตามปกติ