นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ และรองโฆษกกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ในระยะนี้สภาพอากาศมีความแปรปรวนสูง มีฝนตกชุกต่อเนื่องและครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ เพราะเป็นช่วงการเปลี่ยนผ่านฤดูกาลของประเทศไทยจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งปีนี้จะเข้าฤดูฝนอย่างเป็นทางการวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค.68) ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกมากกว่าร้อยละ 60 ของพื้นที่ ยาวนานไปจนถึงกลางเดือนตุลาคม ยกเว้นกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภาคใต้และภาคตะวันออกจะหมดฝนช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน
ภาพรวมคาดการณ์ปริมาณฝนรวมปีนี้ มากกว่าค่าเฉลี่ยประมาณร้อยละ 5 – 10 แต่ประมาณเดือนมิถุนายนถึงกลางกรกฎาคมอาจเกิดฝนทิ้งช่วงในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางตอนบน โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทานที่ประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก จึงขอให้ประชาชนวางแผนการใช้น้ำอย่างเหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางการเกษตร จากนั้นช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคมจะกลับมาเกิดฝนตกชุกหนาแน่นอีกครั้งตามปกติของฤดูฝนและมีความเสี่ยงเกิดพายุหมุนเขตร้อน ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง เนื่องจากปีนี้คาดการณ์จะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยประมาณ 1 – 2 ลูก โดยเฉพาะบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ
สำหรับพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักและดินโคลนถล่ม จะเป็นบริเวณด้านรับมรสุม เช่น ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ตั้งแต่จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และจังหวัดสตูล ส่วนภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด และจังหวัดระยอง จะเกิดฝนตกชุกหนาแน่นและมีโอกาสเกิดน้ำท่วมได้ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฟ้าผ่าและลมกระโชกแรง โดยขอให้อยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนเกษตรกรควรป้องกันและระวังความเสียหายของผลผลิตทางการเกษตร
